‘โกลเด้นวีคสิ้นมนต์’ ท่องเที่ยวจีนซบ

‘โกลเด้นวีคสิ้นมนต์’ ท่องเที่ยวจีนซบ

‘โกลเด้นวีคสิ้นมนต์’ ท่องเที่ยวจีนซบ โดยตัวเลขการท่องเที่ยวช่วงวันชาติจีนปีนี้พบว่าซบเซาลงเล็กน้อย เป็นอีกหลักฐานหนึ่งสะท้อนว่า การเติบโตของเขตเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลกกำลังอ่อนแรง

วันหยุดช่วงวันชาติ 1-7 ต.ค.ที่เรียกว่า “โกลเด้นวีค” เป็นมหกรรมวันหยุดตามนโยบายรัฐบาลที่สำคัญยิ่งของจีน ประเทศที่ไม่ค่อยมีวันหยุดส่วนตัวมากนัก ปีนี้สำคัญมากเป็นพิเศษเพราะเป็นการฉลอง 70 ปี สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์

เว็บไซต์ซีเอ็นบีซีรายงานข้อมูลจากกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว พบว่า ช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมานักท่องเที่ยวไปเยือนแหล่งท่องเที่ยวในจีน 782 ล้านครั้งเพิ่มขึ้นกว่า 7% จาก 726 ล้านครั้งในปี 2561 แต่ขยายตัวน้อยกว่าในปี 2561 ที่จำนวนนักท่องเที่ยวเติบโตกว่า 9% ขณะที่ปี 2560 ขยายตัว 10%

ด้านข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ชี้ว่ายอดขายค้าปลีก อาหาร และเครื่องดื่มระหว่างวันที่ 1-7 ต.ค. เติบโต 8.5% มาอยู่ที่ 1.52 ล้านล้านหยวน (2.12 แสนล้านดอลลาร์) แม้ตัวเลขดูดีแต่อัตราการเติบโตชะลอลงกว่าปี 2561 ที่กระทรวงพาณิชย์อ้างว่า ตัวเลขอยู่ที่เกือบ 10% เป็นอย่างน้อย

ติงลู่ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนจากโนบุระ เผยในรายงานล่าสุดวานนี้ (9 ต.ค.) ว่า ข้อมูลช่วงโกลเด้นวีคชี้ให้เห็นการชะลอตัว “เนื่องจากเศรษฐกิจจีนพึ่งพาการบริโภคให้เป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตมากขึ้น ข้อมูลช่วงโกลเด้นวีคจึงเป็นมาตรวัดที่ดี บอกให้ทราบถึงแนวโน้มการเติบโตของการบริโภคในประเทศจีน”

ทั้งนี้ ทางการจีนพยายามส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ ให้เป็นตัวหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในภาพรวม ไม่นานหลังจากรัฐบาลประชุมใหญ่ในเดือน มี.ค. ทางการประกาศขยายวันหยุดเนื่องในวันแรงงาน 1 พ.ค.เป็น 2 วันโดยการสลับวันหยุดกับวันสุดสัปดาห์ วิธีนี้ทำกันเสมอในจีน

ช่วงวันหยุดตรุษจีนเมื่อเดือน ก.พ.ที่เป็นโกลเด้นวีคอีกช่วงหนึ่ง การท่องเที่ยวก็เติบโตชะลอลงเช่นกัน ตัวเลขทางการจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางไปต่างประเทศช่วงตรุษจีนยังบอกไม่ได้ถึงอัตราการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง

การท่องเที่ยวต่างประเทศก็เป็นไปในทำนองเดียวกัน มีทั้งเรื่องดีและร้าย เรื่องดีคือชาวจีนไปเที่ยวต่างประเทศมากกว่าปี 2561 ราว 2-3 ล้านคน แต่เรื่องร้ายคือจำนวนการเดินทางออกนอกประเทศร่วงลงกว่า 10%

กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเคยประเมินว่า วันชาติปี 2561 คนจีนเที่ยวต่างประเทศไม่ถึง 7 ล้านคน ปีนี้กระทรวงคาดว่า ตัวเลขน่าจะเกิน 7 ล้านคน

แต่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเผยแพร่ข้อมูลเมื่อวันจันทร์ (7 ต.ค.) ระบุ 6 วันแรกของโกลเด้นวีค การเดินทางเข้าออกของชาวจีนในแผ่นดินใหญ่ลดลง 15.1% จากปี 2561 มาอยู่ที่ 6.07 ล้านครั้ง

เมื่อไปดูรายงานจากรัฐบาลฮ่องกง ระบุว่า นักท่องเที่ยวลดลง 50% เนื่องจากเหตุประท้วง การเดินทางเข้าออกจากจีนแผ่นดินใหญ่สู่ฮ่องกงลดลง 11% มาอยู่ที่ 10.45 ล้านครั้ง

แต่ข้อมูลจากสำนักงานการท่องเที่ยวจีนชี้ว่า ช่วงครึ่งแรกของปีนี้ชาวจีนเที่ยวนอกประเทศเพิ่มขึ้น 14% มาอยู่ที่ 81.29 ล้านเที่ยว

รายงานของกระทรวงการท่องเที่ยวว่าด้วยการเดินทางช่วงโกลเด้นวีค เผยว่าการท่องเที่ยวต่างประเทศและตลาดการบริโภคดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับหลายปีก่อน คนจีนไปเที่ยวต่างแดนเพื่อการพักผ่อนมากกว่าชอปปิง แหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยดัง เช่น โครเอเชียและสโลวาเกีย ยอดจองเพิ่มขึ้นระดับตัวเลขกว่าสองหลัก

นี่ยังไม่รวมข้อมูลที่ว่า ชาวจีนที่ไปต่างประเทศช่วงสัปดาห์ก่อน ใช้จ่ายเงินผ่านแอพพลิเคชันอาลีเปย์มากกว่าปี 2561

อาลีเปย์ ที่ดำเนินการโดยแอนท์ไฟแนนเชียล บริษัทในเครืออาลีบาบา เผยว่า ยอดใช้จ่ายรวมต่อคนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 15% มาอยู่ที่ราว 2,500 หยวน (350 ดอลลาร์)

ญี่ปุ่นเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ที่ชาวจีนจองไปเที่ยวเองผ่านแพลตฟอร์มซีทริป จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น 30% ใช้จ่ายเฉลี่ย 6,879 หยวน

ซีทริปให้เหตุผลว่า ชาวจีนชื่นชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่น อีกทั้งรัฐบาลโตเกียวผ่อนคลายเรื่องวีซ่าช่วยกระตุ้นยอดการท่องเที่ยว ซึ่งหาได้ยากในแหล่งท่องเที่ยวที่อิ่มตัวแล้วอย่างแดนซากุระ

ส่วนในประเทศ10 เมืองยอดนิยมที่ชาวจีนไปเที่ยวมากที่สุดช่วงโกลเด้นวีค ผู้คนใช้จ่ายอย่างน้อย 3,000 หยวน เสิ่นเจิ้นครองอันดับ 1 ใช้จ่าย 3,324 หยวน

แต่ใช่ว่าการเดินทางทุกเที่ยวช่วงวันหยุดยาวจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก ปักกิ่งนิวส์รายงานว่า สนามบินนานาชาติปักกิ่งต้าชิง ซึ่งเปิดก่อนวันชาติไม่กี่วัน ช่วงวันที่ 2-4 ต.ค. มีการเดินทางเข้าออกราว 90,000 ครั้งต่อวัน ขณะที่จำนวนผู้โดยสารขาออกเฉลี่ยวันละ 4,852 คน