อาลีเพย์เผย 'ไทย' รั้งเบอร์ 2 ปริมาณธุรกรรมพุ่ง

อาลีเพย์เผย 'ไทย' รั้งเบอร์ 2 ปริมาณธุรกรรมพุ่ง

ยอดใช้จ่ายผ่านอาลีเพย์ในต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง "ญี่ปุ่น" แซงหน้าไทย ครองแชมป์อันดับ 1 เป็นครั้งแรก เขี่ยไทยร่วงไปครองอันดับ 2 จากทั่วโลกด้านปริมาณธุรกรรม และยอดทัวร์ชิมทุเรียนในไทยเพิ่มขึ้น 60% จากปีที่แล้ว

อาลีเพย์ (Alipay) แพลตฟอร์มการชำระเงินผ่านมือถือซึ่งดำเนินการโดยกลุ่มบริษัทแอนท์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส (Ant Financial Services Group) ในเครือ "อาลีบาบา" ของจีน เผยข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมในต่างประเทศของนักท่องเที่ยวจีน ช่วงวันหยุดยาวของสัปดาห์เฉลิมฉลองวันชาติจีน หรือ Golden Week (1-7 ต.ค.) โดยอาลีเพย์ได้เร่งขยายฐานธุรกิจไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ส่งผลให้ยอดใช้จ่ายในต่างประเทศผ่านแอพอาลีเพย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ข้อมูลและประเด็นสำคัญสำหรับประเทศไทยจากอาลีเพย์ ระบุว่า ไทยครองอันดับ 2 ของโลกในแง่ของปริมาณธุรกรรม ขณะที่ญี่ปุ่นครองแชมป์อันดับหนึ่งเป็นครั้งแรก ปริมาณธุรกรรมทั้งหมดเพิ่มขึ้น 1.2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ยอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนเพิ่มขึ้น 1.22 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สถานที่ที่มีปริมาณการทำธุรกรรมสูงสุดได้แก่ ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าปลอดภาษี และห้างสรรพสินค้า

ขณะที่ข้อมูลจาก Fliggy ระบุว่า นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมายังประเทศไทยส่วนใหญ่มาจากมณฑลกวางตุ้ง ตามด้วย เซี่ยงไฮ้ และปักกิ่งตามลำดับ

ข้อมูลจากอาลีเพย์ ยังบ่งชี้ถึงตลาดรวมทั่วโลกด้วยว่า ปริมาณธุรกรรมในร้านค้าสำหรับปีนี้เพิ่มขึ้น 110% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 นับเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นครองอันดับสูงสุดของประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม 10 อันดับในช่วงวันหยุด Golden Week โดยพิจารณาจากปริมาณธุรกรรม 

นอกจากไทยที่ครองอันดับ 2 แล้ว เพื่อนบ้านอาเซียนอย่างกัมพูชาและฟิลิปปินส์ ก็มีรายชื่ออยู่ใน 10 อันดับสูงสุดเป็นครั้งแรก เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ประกอบการจำนวนมากที่รับชำระเงินผ่านอาลีเพย์ในสองประเทศนี้ ด้านจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ มีการเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดในแง่การใช้งานอาลีเพย์เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ปีนี้ฟิลิปปินส์มีปริมาณธุรกรรมเพิ่มขึ้น 26 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2561 โดยเป็นผลมาจากการเปิดรับชำระเงินผ่านอาลีเพย์อย่างแพร่หลายสำหรับผู้ประกอบการจำนวนมากในฟิลิปปินส์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา

157062020182

สำหรับยอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนเพิ่มขึ้น 15% เป็น 2,500 หยวน (ประมาณ 11,000 บาท) ประเทศที่มียอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนสูงที่สุด คือ มอลตา ตามมาด้วยโมนาโก และสเปน ประเทศในยุโรปครองอันดับสูงสุดในแง่ของยอดใช้จ่ายต่อคนสูงสุด โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และญี่ปุ่นครองอันดับสูงสุดสำหรับประเทศนอกทวีปยุโรป

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลด้วยว่า จำนวนผู้ใช้อาลีเพย์ที่เกิดในช่วงทศวรรษ 2000 ขณะที่เดินทางไปต่างประเทศเพิ่มขึ้น 130% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะเดียวกันจำนวนผู้ใช้ที่เกิดก่อนช่วงทศวรรษที่ 60 เพิ่มขึ้น 30%

จุดหมายปลายทางที่ “แปลกใหม่” ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ข้อมูลจาก Fliggy ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบริการท่องเที่ยวของอาลีบาบา (Alibaba) ระบุว่า ยอดการจองแพ็คเกจท่องเที่ยวสำหรับประเทศมอนเตเนโกร อุซเบกิสถาน และเซอร์เบีย เพิ่มขึ้น 14 เท่า, 4.7 เท่า และ 1.8 เท่าตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

นักท่องเที่ยวจีนต้องการประสบการณ์การเดินทางที่แตกต่าง: ยอดขายตั๋วรถไฟในยุโรปผ่านทาง Fliggy เพิ่มขึ้น 35% ขณะที่ยอดขายแพ็คเกจ “ทัวร์ชิมทุเรียน” ในประเทศไทยและมาเลเซียเพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ผู้ประกอบการกว่า 300,000 รายใน 55 ประเทศเข้าร่วมในแคมเปญ Golden Week ของอาลีเพย์ในปีนี้ โดยผู้ใช้ได้รับของกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ (e-gift packs) กว่า 1 ล้านชุดผ่านการสแกน QR Code สำหรับโปรโมชั่น 4 วันแรกของ Golden Week ในปีนี้