ร้องดีเอสไอรับสอบสวนคดี 'อับดุลเลาะห์'

ร้องดีเอสไอรับสอบสวนคดี 'อับดุลเลาะห์'

"ญาติอับดุลเลาะห์" ร้องดีเอสไอ รับสอบสวนเป็นคดีพิเศษ ระบุเสียชีวิตจากการควบคุมตัวเข้าค่ายทหาร แพทย์ชี้สมองขาดอากาศ จี้สอบสวนหาตัวผู้ทำให้ตาย อย่าตอกย้ำความรุนแรงภาคใต้

เมื่อวันที่ 9 ต.ค.62 นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม นำนางซูไมยะห์ มิงกะ อายุ 30 ปี ภรรยาของนายอับดุลเลาะห์ อีซอมูซอ พร้อมญาติเข้ายื่นหนังสือต่อ ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ เพื่อติดตามความคืบหน้าการเสียชีวิตระหว่างถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเป็นผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคง ในค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนเคยมายื่นหนังสือร้องทุกข์กับดีเอสไอเพื่อขอให้สอบสวนหาตัวเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำความผิดมาลงโทษ แต่คดีไม่มีความคืบหน้าจึงนำหลักฐานซึ่งเป็นเอกสารทางการแพทย์ของโรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธฯ และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ มามอบให้เพิ่มเติม แม้ทีมแพทย์ของโรงพยาบาลจะออกมารับรองการเสียชีวิตของนายอับดุลเลาะห์ว่า เกิดจากภาวะสมองขาดอ๊อกซิเจน และขาดเลือดไปเลี้ยงสมอง

แต่ทางครอบครัวก็ยังข้องใจว่านายอับดุลเลาะห์อาจถูกทำทรมานจากเจ้าหน้าที่เพราะก่อนหน้านี้นายอับดุลเลาะห์ ไม่มีโรคประจำตัวรวมถึงไม่มีประวัติการรักษาตัว อีกทั้งในการตรวจสุขภาพก่อนรับตัวไว้สอบสวนแพทย์ของโรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธฯ ก็ระบุว่าสุขภาพแข็งแรง แต่ภายหลัง13 ชม.นับแต่ถูกควบคุมตัวตามกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่แจ้งให้ญาติรับทราบว่านายอับดุลเลาะห์เกิดอุบัติเหตุหกล้ม และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และถูกส่งต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ล่าสุดญาติได้รับผลการชันสูตรสาเหตุของการเสียชีวิตแล้ว โดยสิ่งที่ญาติต้องการทราบคือใครคือผู้ที่ทำให้ตาย แต่ที่ผ่านมากว่า 1 เดือน ไม่พบว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตหรือตัวผู้กระทำ มีเพียงศูนย์อำนวยการบริหารชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาการเสียชีวิตจำนวน 4 แสนบาท จึงต้องการให้ดีเอสไอรับคดีไว้เพื่อสอบสวน โดยเชื่อว่าหากตรวจสอบอย่างจริงจังก็จะมีคำตอบให้ญาติผู้เสียชึวิต เพราะขนาดคดีฆาตกรรมบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยง ที่ผ่านไปนานถึง 5 ปี คดีมีความยากลำบากกว่า ดีเอสไอก็สามารถค้นหาหลักฐาน และศพที่ถูกทำลายได้

"ภาคใต้มีปัญหารุนแรงมากพอแล้ว ไม่ควรให้กรณีของอับดุลเลาะห์มาซ้ำเติมความรุนแรง อับดุลเลาะห์เป็นคนที่ทำงานเพื่อสังคม ช่วยสอนหนังสือเด็ก และการนำสวดละหมาด คนแบบนี้ควรได้รับการปกป้อง สนับสนุน ไม่ควรตกเป็นผู้ต้องสงสัยหรือถูกมองในแง่ลบ" นายสุรพงษ์กล่าว

ด้านนายมูฮัมมัดรอฮมัด มามุ ญาตินายอับดุลเลาะห์ กล่าวว่า 6 ปีที่ผ่านมามีการเสียชีวิตในค่ายอิงคยุทธฯแล้ว 6 ราย จึงขอให้กรณีนายอับดุลเลาะห์เป็นกรณีสุดท้าย พร้อมเรียกร้องให้ลดการใช้อำนาจและกฎหมายพิเศษในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่มักจะอ้างกฎอัยการศึกเชิญตัวเข้าไปพูดคุย โดยไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาตั้งแต่แรก จากนั้นหากมีการฟ้องคดีส่วนใหญ่ก็จะมีการสั่งไม่ฟ้อง หรือยกฟ้อง โดยที่ชาวบ้านไม่สามารถตรวจสอบอำนาจรัฐได้

ด้านร.ต.อ.ปิยะ กล่าวว่า ดีเอสไอได้รับเรื่องเพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว เมื่อได้ข้อเท็จจริงมากเพียงพอจะเสนอให้คณะกรรมการคดีพิเศษ พิจารณาว่าคดีอยู่ในอำนาจการสอบสวนของดีเอสไอ และจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่