20 ต.ค.ชี้ชัดจ่ายเงินค้างครูธุรการ-นักการภารโรง

20 ต.ค.ชี้ชัดจ่ายเงินค้างครูธุรการ-นักการภารโรง

รมว.ศธ.ย้ำครูธุรการและนักการภารโรงไม่ต้องกังวล ได้รับเงินเดือนค้างจ่ายแน่นอน สพฐ.ระบุ 20 ตุลาคมชี้ชัดจัดสรรงบประมาณจ่ายเงินค้างครูธุรการและนักการภารโรง ตั้งเป้าสิ้นเดือนตุลาคมจ้างตามอัตราเดิมได้ทันที

จากกรณีครูธุรการและนักการภารโรงมีความกังวลใจเกี่ยวกับการค้างจ่ายค่าเงินเดือนครูธุรการ และนักการภารโรง ในโรงเรียนสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ทั่วประเทศ ในเดือนสิงหาคม และกันยายน 2562 อีกทั้งการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ก็ยังอยู่ในขั้นตอนของการเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร์เพื่อพิจารณาจึงทำให้กลุ่มครูธุรการและนักการภารโรงกังวลว่าจะได้เงินเดือนค้างจ่ายเมื่อใด

วันนี้ (9 ต.ค.) นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.)  กล่าวว่าได้รับทราบข้อมูลทุกอย่างแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ อยากฝากไปยังครูธุรการและนักการภารโรงทุกคนไม่ต้องกังวล เพราะขณะนี้ได้หารือกับสำนักงบประมาณไว้แล้วและมีงบประมาณจัดสรรสำหรับการค้างจ่ายเงินเดือนอย่างแน่นอน อีกทั้งในปีต่อๆไปก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีการค้างจ่ายเงินเดือนอีก เพราะสพฐ.ได้ตั้งงบประมาณสำหรับเป็นเงินเดือนครูธุรการและนักการภารโรงไว้แล้ว

ทั้งนี้ ตราบใดที่ยังมีความจำเป็นต้องมีครูธุรการ เพื่อให้ครูได้ใช้เวลาในการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนศธ.ก็ต้องดูแลอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ส่วนในอนาคตที่จะมีนโยบายเรื่องการจ้างลูกจ้างต่างๆที่ทำงานโดยไม่ได้รับการบรรจุให้เป็นพนักงานราชการนั้นก็กำลังอยู่ระหว่างการดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่ เพื่อให้กลุ่มลูกจ้างได้มีความมั่นคงในการทำงานมากขึ้น  ดังนั้น จากนี้ขอทุกโรงเรียนมาดูเรื่องการใช้บุคลกรภายในโรงเรียนด้วยว่าต้องมีจำนวนเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม เพื่อทำให้โรงเรียนมีคุณภาพ

นายอำนาจ วิชายานุวัติ รักษาราชการเลขาธิการ กพฐ.กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว ภายในวันที่ 20 ต.ค.สพฐ.ได้จัดงบประมาณลงไปให้โรงเรียนเพื่อให้มีการจ้างต่อเนื่อง ดังนั้น สิ้นเดือนตุลาคมนี้โรงเรียนสามารถจ้างครูธุรการและนักการภารโรงตามอัตราเดิมได้ทันที  และขณะนี้ได้หารือกับสำนักงานพัฒนาบริหารงานบุคคล (สพร.) ของสพฐ.ถึงการวางแผนอัตรากำลังของกลุ่มครูธุรการและนักการภารโรงในอนาคต  เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการวางแผนอัตรากำลัง เพราะไม่ใช่โรงเรียนไหนอยากจะจ้างก็จ้าง ต้องทำตัวเลขอัตรากำลังการจ้างของกลุ่มคนเหล่านี้ให้ชัดเจนว่าโรงเรียนแต่ละขนาดจะมีครูธุรการหรือนักการภารโรงกี่คน โดยโรงเรียนบางแห่งอาจมีครูธุรการแค่ 2 คนหรือไม่จำเป็นต้องมีเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามในอนาคตการของบประมาณสำหรับจ้างกลุ่มคนเหล่านี้ได้เตรียมแผนงานไว้แล้ว ซึ่งควบคุมเรื่องนี้เอง ดังนั้นหากสำนักงบประมาณไม่ให้ก็ต้องรับผิดชอบ