เจรจาการค้าอาจสะดุด

เจรจาการค้าอาจสะดุด

คาดว่าดัชนีจะสลับรีบาวด์ในช่วงอ่อนตัวได้หลังประธาน Fed จะเริ่มขยายงบดุลบัญชีผ่านการซื้อพันธบัตรระยะสั้นซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงโอกาสในการใช้ QE ในช่วงถัดไป

ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index แกว่งตัวแคบ -1.54 จุด (-0.10%) ปิดที่ระดับ 1,612 จุด ด้วย Volume เบาบางเพียง 3.6 หมื่นล้านบาท เนื่องจากภาวะตลาดขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุนนอกจากนี้นักลงทุนยังคงชะลอการซื้อขายเพื่อติดตามการเจรจาข้อพิพาทการค้าสหรัฐ-จีนในช่วงปลายสัปดาห์ ส่งผลให้ส่วนใหญ่เป็นแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลาง-เล็ก สำหรับนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 842 ล้านบาท แต่ Net Long TFEX จำนวน 2,370 สัญญา และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,006 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้

เรามีมุมมองเป็นลบคาด SET อ่อนตัวทดสอบ 1,600 - 1,605 จุด จากข่าวสหรัฐประกาศขึ้นบัญชีดำต่อบริษัทเทคโนโลยีของจีน 28 แห่งรวมถึงระงับการออกวีซ่าให้เจ้าหน้าที่จีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนมุสลิมในมณฑลชินเจียง ในขณะที่จีนประกาศว่าจะตอบโต้สหรัฐและเรียกร้องให้สหรัฐยุติการแทรกแซงกิจการภายในจีน ซึ่งประเด็นดังกล่าวเป็นลบต่อบรรยากาศการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนในวันที่ 10 – 11 ต.ค.ส่งผลให้ Fund flow ยังคงมีแนวโน้ม Risk off ต่อไป นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงจะเป็นลบต่อกลุ่มพลังงานและภาวะตลาดอีกด้วย อย่างไรก็ตาม คาดว่าดัชนีจะสลับรีบาวด์ในช่วงอ่อนตัวได้หลังประธาน Fed จะเริ่มขยายงบดุลบัญชีผ่านการซื้อพันธบัตรระยะสั้นซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงโอกาสในการใช้ QE ในช่วงถัดไป

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • AOT ,ERW , MINT ครม.เศรษฐกิจเตรียมพิจารณามาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวชุดใหญ่ในวันที่ 11 ต.ค.
  • กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD, THANI) ได้ประโยชน์ต้นทุนลดลงจากทิศทางดอกเบี้ยขาลง
  • Defensive stock AOT, INTUCH, ADVANC, BEM, BTS, BDMS, BCH, CHG, GPSC, BGRIM, TTW, CPALL

หุ้นแนะนำวันนี้

  • ADVANC (ปิด 226 ซื้อ/เป้า 260) ปลอดภัยจาก Trade war, ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการ 3Q19 ยังเติบโตตรงข้ามกับหุ้น Big Cap ในกลุ่ม พลังงานและธนาคารที่ชะลอตัว โดยเราคาดกำไรสุทธิประมาณ 8.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10%qoq และ 25%yoy
  • JMT (ปิด 18.3 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 24) ทยอยสะสมคาดแนวโน้มกำไรจะยังพุ่งทำ All time high ได้ทุกไตรมาสจากรายได้ของการเรียกเก็บหนี้ที่เพิ่มขึ้นตามพอร์ตหรือฐานลูกหนี้ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีพอร์ตหนี้ในการบริหารทั้งหมด 1.4 แสนล้านบาท สามารถสร้างกระแสเงินสดต่อเนื่องไปได้อีกอย่างน้อย 12 ปี

บทวิเคราะห์วันนี้

TU (ปิด 15.7 ปรับลดเป็นถือ/เป้าใหม่ 18.1 จาก 21.8)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (-) Trade deal จีนกับสหรัฐอาจล้มเหลว เมื่อสหรัฐประกาศระงับวีซ่าให้กับเจ้าหน้าที่จีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนของชาวมุสลิมอุยกูร์: สหรัฐเปลี่ยนเกมส์ตอบโต้จีนจากภัยความมั่นคงต่อสหรัฐเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน คือ 1) ประกาศขึ้นบัญชีดำต่อบริษัทเทคโนโลยีของจีน 28 แห่ง โดยอ้างว่าบริษัทเหล่านี้ได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนของชาวมุสลิมในเขตปกครองตนเองซินเจียง และ 2) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศระงับการออกวีซ่าให้กับเจ้าหน้าที่จีนรวมถึงสมาชิของครอบครัวที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกักตัวชาวมุสลิมเป็นจำนวนมากในมณฑลซินเจียง การดำเนินการดังกล่าวของสหรัฐ ส่งผลให้ตลาดสินทรัพย์เสียงตอบรับในเชิงลบทันที โดยดัชนีดาวโจนส์ร่วงแรงกว่า 314 จุด (-1.19%) ปิดที่ระดับ 26,164 จุด
  • (-) ราคาน้ำมันดิบยังไม่ฟื้น คาดสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 และกังวลดีมานด์ชะลอตัวหลัง Trade deal จีนกับสหรัฐอาจล้มเหลว: ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 12 เซนต์ (-0.2%) ปิดที่ระดับ 52.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จาก 1) กังวลดีมานด์ชะลอตัวหลังจาก Trade deal จีนกับสหรัฐอาจจะประสบความล้มเหลวหลังจากจีนประกาศแบนบริษัทเทคโนโลยีจีนและระงับวีซ่าเจ้าหน้าที่จีนที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวมุสลิม อีกทั้ง EIA ยังปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันดิบของโลกลงอีก 50,000 บาร์เรล จากเดิมคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 840,000 บาร์เรล เป็นเพิ่มขึ้นเพียง 850,000 บาร์เรลต่อวัน 2) กังวลสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นโดย Consensus คาดสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นอีก 2.4 ล้านบาร์เรล เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4
  • (+) ประธานเฟดส่งสัญญาณ ดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ด้วยการนำ QE กลับมาใช้: นายเจอ โรม พาวเวล ประธานเฟดขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสมาคมเศรษฐกิจธุรกิจแห่งชาติสหรัฐ โดยระบุว่าเฟดจะเดินหน้าดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐให้กลับมาฟื้นตัว และพร้อมจะนำ QE หรือ การเข้าซื้อพันธบัตรระยะสั้นของรัฐบาลเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาดเพิ่มขึ้นซึ่งเรามองเป็น Sentiment บวกต่อการลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะตลาดหุ้นในภูมิภาคเกิดใหม่ซึ่งคาดว่าจะมี Fund Flow ไหลเข้าในระยะถัดไป