ชิมช้อปใช้ 'ดี' แต่ไม่ทั่วถึง I จับกระแส

ชิมช้อปใช้ 'ดี' แต่ไม่ทั่วถึง I จับกระแส

ปฏิเสธไม่ได้ว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมุ่งกระตุ้นกำลังซื้อของรัฐบาล อย่าง “ชิมช้อปใช้” ที่มีการแจกเงินใส่กระเป๋าคนละ 1,000 บาท ให้ประชาชนนำไปจับจ่ายใช้สอย

ถือเป็นโครงการที่ดี เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ “ฝืดเคือง” มาร่วมหลายเดือน ทำให้บางคนถึงกับตกงาน รายได้ลด หรือเกิดอาการชักหน้าไม่ถึงหลัง

ดังนั้น 1,000 บาท ที่เข้ากระเป๋ามาก็เหมือนเป็น “ออกซิเจน” ที่ช่วยต่อลมหายใจให้กับประชาชนได้ชั่วขณะได้ แม้จะไม่มาก แต่ก็พอประคอง ให้ได้ของใช้ครัวเรือน หรือนำไปซื้ออาหารการกินไว้ตุนได้หลายมื้อเลยทีเดียว 

แต่ขั้นตอนการได้มาของเงิน 1,000 บาทนั้น ต้องบอกว่า “ยากลำบากแสนเข็ญ” เพราะจำกัดสิทธิวันละ 1 ล้านคน และได้สิทธิเฉพาะ 10 ล้านคนเท่านั้น ใครที่อยากได้ก็ต้องแย่งชิงกันลงทะเบียน อดหลับอดนอนก็ยอม บางคนถ่างตาลงทะเบียนถึงตี 2 ก็ยังไม่ได้ กดรีเฟรชเป็นร้อยๆ ครั้ง... ก็ยังต้องรอคิว

เท่านั้นยังไม่พอ จากประสบการณ์ส่วนตัว เคยลงทะเบียนให้พ่อแม่ที่ต่างจังหวัด พีคสุดคือ แม้ลงทะเบียนได้ แต่ตอนกด OTP ไม่ได้ กดเป็น 10 ครั้งก็ยังไม่ได้ จนนั่งมองระบบหมดเวลา แล้วต้องไปลงทะเบียนใหม่ตั้งแต่แรก หงุดหงิดไม่ใช่น้อย ที่สงสารสุดคือ พ่อ แม่ ตายาย ที่ต้องตื่นมาดูโทรศัพท์ ทั้งที่บางคนไม่รู้จักด้วยซ้ำว่า รหัส OTP คืออะไร ต้องเอารหัสตรงไหนบอกลูกหลานที่ลงทะเบียนให้ 

ถ้าลงทะเบียนผ่าน ก็ต้องไปเผชิญชะตากรรม การยืนยันตัวตนอีกรอบ ต้องสอนตั้งแต่วิธีใส่เบอร์ ยันถ่ายรูป ลงไม่ผ่านอีก ซวยซ้ำซวยซ้อนมากมาย ทำให้ต้องไปยืนยันตัวตนที่สาขากรุงไทย บอกแล้วกว่าจะได้ 1,000 บาท.. ลำบากยันลูกหลาน

ที่บอกตั้งแต่ตอนต้น ว่า “ปฏิเสธไม่ได้” ว่าโครงการนี้ดีจริง เพราะเป็นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ระบบการชำระเงินของประเทศ ให้เติบโตไปอีกขั้น และอาจเป็นการปฏิวัติระบบการเงินไทยครั้งสำคัญเลยก็ว่าได้

แต่ที่ไม่เห็นด้วย คือ โครงการนี้ทำให้คนรู้สึก ถูกแบ่งชนชั้นขึ้นไปอีก แม้คนทำนโยบายจะไม่รู้สึก แต่มองในแง่ของคนต้องการได้สิทธิ รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เพราะโครงการนี้แม้จะดี แต่ไม่ทั่วถึงเลย แถมจำกัดสิทธิไปอีก

เชื่อมั้ย? ยาม แม่บ้าน คนขายของ ตายายตามต่างจังหวัด มองตาปริบๆ เศร้าอย่างบอกไม่ถูก เพราะเขาไม่มีสมาร์ทโฟน ไม่มีอินเทอร์เน็ต แค่นี้ก็ถูกตัดสิทธิแล้ว นั่งดูคนอื่นซื้อของกันหน้าระรื่นไป

ถึงบอกว่า โครงการนี้ ยิ่งทำให้เกิดการแบ่งชนชั้นไปอีก ยิ่งทำให้คนที่ลำบากแล้ว รู้สึกลำบาก ไม่ได้รับความเป็นธรรมไปอีก เพราะไม่ทั่วถึง คนที่ได้ทั้งครอบครัวได้ 5 คนก็ 5,000 แล้ว แต่ถ้าบ้านไหนไม่มีสมาร์ทโฟนเลย อดทั้งครอบครัว

อยากตั้งคำถามเหมือนกันว่า ทำไมถึงคิดโครงการออกมาได้ แต่ทำไมถึงไม่ทำให้คนได้รับสิทธิกันทั่วถึง แบบใช้ง่ายๆ ไม่ต้องไปลำบากลำบน 

ดังนั้น ไม่แปลกเลย ที่โครงการนี้เป็นช่องโหว่และปัญหาตามมามากมาย ไหนๆ รัฐบาลคิดจะทำ “โครงการชิมช้อปใช้เฟส 2” แล้ว ช่วยคิดด้วยว่า จะทำให้คนอีกมากที่ไม่ได้สิทธิ ไม่มีมือถือ ไม่มีสมาร์ทโฟน ไม่มีอันจะกิน คนเหล่านี้จะเข้าถึงได้อย่างไร?