จุรินทร์ ตั้งกรรมการใหม่แก้หนี้กฟก.

จุรินทร์ ตั้งกรรมการใหม่แก้หนี้กฟก.

จุรินทร์ ถกแก้ปัญหา กฟก. วงกรอบงบปี 63 กว่า 2,463 ล้านตั้งกรรมการแก้หนี้ชุดใหม่เร่งซื้อหนี้ทรัพย์ค้ำประกันก่อน  หนี้บุคคลค้ำให้พิจารณาเป็นรายกรณี หนี้เกิน 2.5 ล้านให้อนุกรรมการพิจารณา

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.)ว่าได้อนุมัติกรอบงบประมาณปี 63 วงเงิน 2,463 ล้านบาท  และการบริหารจัดการหนี้ ที่ตั้งคณะกรรมการชุดใหม่มาดำเนินการ แต่เรื่องใดที่เกินอำนาจ ให้ส่งมาที่กรรมการกองทุนฟื้นฟูชุดใหญ่ และเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)หากมีความจำเป็น

กรณีการซื้อหนี้ที่เป็นของธนาคารรัฐ และมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ให้กองทุนฯดำเนินการทันที ส่วนหนี้บุคคลค้ำประกัน ให้คณะกรรมการจัดการหนี้พิจารณาเป็นรายกรณี และกรณีหนี้เกิน 2.5 ล้านบาท ให้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาพิจารณา

รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมคณะกรรมการ กฟก. พิจารณาตามข้อร้องเรียนเกษตรกร เช่น ให้ใช้งบ3,500 ล้านบาท เพื่อซื้อหนี้ ปี 2546 จากธกส. ออมสิน ธอส SME Bank  มติคือ มอบหมายคณะกรรมการจัดการหนี้ ตรวจสอบข้อมูลและรายละเอียด ให้เรียบร้อยก่อนเสนอคณะกรรมการกองทุนพิจารณา เพื่อเสนอ ครม ให้ความเห็นชอบต่อไป ด้วยวัตถุประสงค์ของการกู้ใน 3 ธนาคารที่ไม่ใช่ ธกส. นั้นไม่ได้เป็นเพื่อการเกษตร

กรณีหนี้เกิน 2.5 ล้านบาท จำนวน 344 ราย รวมทั้งหมด 2314.66 ล้านบาท มติ เห็นชอบให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการร่วม 4 ฝ่ายจำนวน 15 คน โดยมีตัวแทนเกษตรกรภาคละ 1 คนเข้าร่วมในคณะอนุกรรมการฯด้วย และให้ปรับปรุงโครงการฯก่อนเสนอคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกรตรวจสอบ ก่อนเสนอคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรพิจารณา และครม. ต่อไป

หนี้ที่ถูกเจ้าหนี้ขายทรัพย์สินเป็นประกัน  ซึ่งซื้อไปแล้วกว่า 288 ล้านบาท 499 ราย มติคืออนุมัติให้คณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกรที่มีคุณสมบัติครบถ้วน และให้ดำเนินการรวบรวมรายชื่อเกษตรกรที่มีปัญหาไม่เข้าหลักเกณฑ์เสนอคณะกรรมการจัดการหนี้ฯกลั่นกรองความถูกต้อง พร้อมทั้งจัดทำข้อเสนอแนะ ก่อนเสนอคณะกรรมการกองทุนพิจารณาต่อไป

พิจารณาแนวทางหนี้สหกรณ์จำนวน 43,004 ราย1,392 ล้านบาท สถานะปัจจุบันต้องการให้ ครม ชดเชยเงินคืนกองทุนและลดหนี้ให้เกษตรกรอีก 50 %  มติ คือ เห็นชอบให้คณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกรกลับไปพิจารณาหนี้ทั้งระบบ หากจำเป็นต้องเสนอ ครม ขอเงินชดเชยคืน ให้นำเสนอคณะกรรมการกองทุนฯพิจารณาอีกครั้ง