ซีอีโอ 'บ้านปู' ชี้ราคาหุ้นต่ำพื้นฐาน ส่งผลรีบาวด์แรง

ซีอีโอ 'บ้านปู' ชี้ราคาหุ้นต่ำพื้นฐาน ส่งผลรีบาวด์แรง

หุ้น “บ้านปู” รีบาวด์แรง ปิดตลาดพุ่ง 5% ระหว่างวันทำจุดสูงสุดที่ 13.50 บาท ด้าน “ซีอีโอ” เชื่อผลจากราคาหุ้นต่ำกว่าพื้นฐาน ทั้งบริษัทยังมีโครงการซื้อหุ้นคืน “นักวิเคราะห์” คาดแรงเก็งกำไร 2 ตลาด “หุ้น-อนุพันธ์” ส่งผลวอลุุ่มเทรดแน่น

 ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU  วานนี้ (7 ต.ค.) ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่เปิดซื้อขายช่วงเช้า แตะระดับสูงสุดของวันที่ 13.50 บาทต่อหุ้น ก่อนปรับตัวลดลง มาปิดตลาดที่ระดับ 12.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ 5 % จากวันก่อน โดยมีมูลค่าซื้อขายสูงถึง 2,514.67 ล้านบาท ขณะเดียวกันในวานนี้ ยังพบรายการบิ๊กล็อตจำนวน 8.3 ล้านหุ้น ที่ราคา 12.10 บาท มูลค่าการซื้อขายราว 100 ล้านบาท

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เปิดเผยว่า ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น คาดว่าเกิดจาก ที่ผ่านมาราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวลดลงมากแล้ว ซึ่งต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานของบริษัท เมื่อเทียบกับมูลค่าของบ้านปู ที่จะมีการเติบโตขึ้นในอนาคต ทำให้นักลงทุนมีความสนใจเข้าลงทุนในหุ้นของบริษัท เพราะ เห็นโอกาสการเติบโตที่ดีของบริษัท ประกอบกับนักลงทุนมีความเชื่อมั่นลงทุนหุ้นของบริษัทมากขึ้น หลังจากที่ผ่านมา บริษัททำโครงการซื้อหุ้นคืน และ มีการจ่ายเงินปันผลที่ดี

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)หรือ UOBKH เปิดเผยว่า ราคาหุ้นบ้านปู ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง เนื่องจาก นักลงทุนมีการซื้อหุ้นบ้านปู ผ่านบล็อคเทรดมากขึ้น ทำให้ สถานะคงค้างใน Single Stock Futures อยู่ในระดับ 54,992 สัญญา เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา เพิ่มจากวันที่ 3 ต.ค. อยู่ที่ 36,090 สัญญา และมากกว่าที่ผ่านที่จะมีปริมาณสัญญาคงค้าง อยู่ในระดับประมาณ 25,000 – 30,000 สัญญา เท่านั้น

‘พฤติกรรมที่ สถานะคงค้างใน Single Stock Futuresที่เพิ่มขึ้น ในจังหวะที่ราคาหุ้นฟื้นนั้น  คาดว่านักลงทุนอาจมองเห็นประเด็นบางอย่าง ที่จะส่งผลต่อราคาหุ้น จึงเข้าเก็งกำไร ใน 2 ตลาด คือ ตลาดหุ้น และ ในตลาดอนุพันธ์ ที่ใช้เงินลงทุนน้อยกว่า ลงทุนในตลาดหุ้น แต่หากพิจารณาจากข้อมูลที่มีอยู่ในขณะนี้ เรายังไม่เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงในส่วนนั้นคืออะไร และคาดว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อาจเกิดจากมีกระแสข่าวออกมาในตลาดว่าบริษัทอาจจะออกวอร์แรนต์ แต่ก็ยังไม่ได้รับการยืนยันข้อเท็จจริงใดๆ’นายกิจพณ กล่าว

สำหรับราคาซื้อขายของหุ้นบ้านปู แม้จะเทรดที่ P/E ค่อนข้างต่ำ เพียง 12.4 เท่า แต่ยังไม่มีความโดดเด่นในแง่ปัจจัยพื้นฐานมาก เนื่องจากธุรกิจไฟฟ้าซึ่งเป็นธุรกิจที่นักลงทุนคาดหวังก่อนหน้านี้ ก็ยังไม่ได้แสดงผลประกอบการที่ดีนัก เนื่องจากโรงไฟฟ้าหลักอย่างบีแอลซีพี เริ่มมีกำไรที่ลดลงเรื่อยๆ ส่วนโรงไฟฟ้าที่ประเทศจีน ก็มีความไม่แน่นอนของผลประกอบการพอสมควร เพราะการปรับขึ้นราคารับซื้อไฟฟ้าจะต้องขออนุญาตจากภาครัฐก่อนเสมอ ขณะเดียวก็ต้องแบกรับความเสี่ยงจากความผันผวนของต้นทุนการผลิต

ส่วนข้อมูลธุรกรรมขายชอร์ตในหุ้นบ้านปูในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา มีสัดส่วน 5.28% ของมูลค่ารวม และหากพิจารณาตลอดปี 2562 ที่ผ่านมานี้ สัดส่วนอยู่ที่ 9.29% สูงเป็นอันดับที่ 4 ของตลาด รองจาก พีทีทีจีซี (PTTGC) ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และพลังงานบริสุทธิ์ (EA) ซึ่งอยู่ที่ 11.17% 10.68% และ 10.06% ตามลำดับ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-'บ้านปู' อัด 5 พันล้าน ซื้อหุ้นคืน 385 ล้านหุ้น

-'บ้านปู' ดันราคาพุ่งแรง หลังทุ่ม 5 พันลบ.ซื้อหุ้นคืน

-'บ้านปู' แจ้งบีพีพีลงทุนในโรงไฟฟ้าโซล่าฟาร์มในจีนเพิ่ม

-banpu - ถือ