ฟื้นตัว

ฟื้นตัว

Trading Buy โดยมีจุดขายตัดขาดทุน หากดัชนีต่ำกว่า 1600 จุด

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เรามีมุมมอง Slightly Positive และคาดดัชนีฯ ฟื้นตัว แนวรับ 1600 / 1592 จุด แนวต้าน 1615 / 1620 จุด แนะนำ Trading Buy โดยมีจุด Stop Loss หากดัชนีฯ หลุด 1600 จุด ปัจจัยบวก 1) ประธานเฟดส่งสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวแข็งแกร่ง แม้มีความท้าทายในระยะยาว จากตัวเลขภาคการผลิตที่อ่อนแอ และการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ย. ต่ำกว่าคาด (แต่อัตราว่างงานต่ำสุดรอบ 50 ปี) 2) โอกาสที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่อง ยังคงมีความเป็นไปได้สูง หลังจากประธานเฟด Powel ระบุว่าเฟดกำลังทบทวนกลยุทธ์ในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% โดย CME Group ให้โอกาส 76.4% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมปลายเดือน ต.ค. 3) ที่ปรึกษาทำเนียบขาว Larry Kudlow เชื่อว่าการเจรจาระหว่างจีนกับสหรัฐฯ สัปดาห์นี้ อาจมี Positive Surprises

สรุปภาวะตลาดหุ้นไทยวันศุกร์

ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 1605.96 จุด -4.73 จุด -4.73 จุด หรือ -0.29% วอลุ่มซื้อขายเบาบาง 3.78 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มแบงก์ -0.95% โรงพยาบาล -0.94% ส่วนกลุ่มไฟแนนซ์ ช่วยหนุนตลาด +1.52% ขณะที่ทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง 2.3% WoW แย่สุดในภูมิภาคเอเชีย นำลงโดยกลุ่มปิโตรเคมี -4.9% WoW อสังหาฯ -4.7% WoW แบงก์ -4.67% WoW

ประเด็นสำคัญวันนี้

+ ตลาดหุ้นโลกวันศุกร์ฟื้นตัว แต่ทั้งสัปดาห์ปรับลดลง WoW: DJ +372.68 จุด +1.42% S&P500 +1.4.2% Nasdaq +1.4% เป็นผลจากรายงานอัตราว่างงานเดือน ก.ย. ต่ำสุดรอบ 50 ปี ที่ 3.5% (Vs คาด 3.7%) และเฟดมีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมปลายเดือน ต.ค. นี้ หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือน ก.ย. เพิ่มขึ้นเพียง 1.36 แสนราย (Vs คาดเพิ่มขึ้น 1.45 แสนราย) รวมถึงการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดย APPLE หลังคาดว่ายอดขาย Iphone11 ดีกว่าคาด 10% ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก จากแรงซื้อหุ้นปลอดภัย กลุ่ม Health Care, อาหารและเครื่องดื่ม ส่งผลบวกต่อ CAC40 +0.91% DAX +0.73% FTSE +1.1% (สัปดาห์ที่ผ่านามา DJ -0.92%WoW Nasdaq +0.54% WoW DAX -2.97% WoW FTSE -3.65% WoW)

+ สินค้าโภคภัณฑ์วันศุกร์ฟื้นตัว ยกเว้นทองคำ: น้ำมันโลกปิดสูงขึ้น WTI+USD0.36 +0.7% ปิด USD52.81/บาร์เรล Brent +USD0.66 +1.1% ปิด USD58.37/บาร์เรล จากรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 อีก 3 แท่น เป็น 710 แท่น แต่ทั้งสัปดาห์ WTI -5.5% WoW Brent -5.7% WoW ขณะที่ราคาทองคำลดลง USD 0.90 ปิดที่ USD1,512.90/ออนซ์ จากการขายสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ทั้งสัปดาห์ +0.43%WoW

- Fund Flow: 6 ชาติในเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) มีเงินทุนไหลออกเป็นสัปดาห์ที่สอง–USD216mn (Vs สัปดาห์ก่อนหน้า –USD442mn) โดยขายทุกตลาด ยกเว้น ไต้หวัน
ขณะที่ตลาดหุ้นไทย ถูกขายต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 11 ด้วยจำนวน -USD216mn (Vs สัปดาห์ก่อนหน้า –USD136mn) ทำให้ YTD กลับมาเป็นขายสุทธิสะสม USD352mn

+/- สหรัฐฯ: รายงานจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ย. ต่ำกว่าคาด โดยเพิ่มขึ้น 1.36 แสนราย (Vs คาด เพิ่มขึ้น 1.45 แสนราย) แต่อัตราว่างงาน ลดลงเหลือ 3.5% ต่ำสุดรอบ 50ปี และต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 3.7% ขณะที่ประธานเฟด Powel กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯยังแข็งแกร่ง แม้กำลังเผชิญปัจจัยความท้าทายในระยะยาว โดยเฟดเชื่อว่าเครื่องมือและกลยุทธ์ในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ยังคงมีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกันกับประธานเฟด สาขาแอตแลนต้า บอสติค ที่เชื่อว่าสหรัฐฯ ไม่ได้เผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย

+ Trade war: ที่ปรักษาทำเนียบขาว Larry Kudlow กล่าวว่า การเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อาจมี Positive Surprises แต่การที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนกระบวนการ
เสรีภาพและประชาธิปไตยในฮ่องกง อาจส่งผลกระทบต่อการเจรจา

- สหรัฐ: Impeachment: ปธน.ทรัมป์ กล่าวว่า เขาได้เรียกร้องให้จีนทำการสอบสวนนายโจ ไบเดน ในข้อหาคอรัปชั่น เช่นเดียวกันกับที่เคยเรียกร้องให้รัฐบาลยูเครนให้เข้าสอบสวนขณะที่เขาเชื่อว่าวุฒิสภาจะโหวตให้การสนับสนุนเขา แม้สภาล่างอาจจะพ่ายแพ้

กลยุทธ์: Trading Buy โดยมีจุดขายตัดขาดทุน หากดัชนีต่ำกว่า 1600 จุด

หุ้นแนะนำเก็งกำไรระยะสั้น (Trading Buy ทางเทคนิค)

         หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: TISCO TASCO AMATA

         หุ้นโมเมนตัมบวก: CNS MTC TOA TEAMG

         หุ้นโมเมนตัมลบ: TU SPRC SPA JTS PSL WICE

         Derivatives: เปิดสถานะ Short USDZ19 เก็งกำไร เป้าทำกำไร 30.35 และ Stop order ที่ 30.60 (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)