ร้อง 'ยธ.' สอบดีเอสไอ ปมไม่ฟ้อง 'นิภา-ธนพล' คดีค้ามนุษย์อ่างวิคตอเรีย

ร้อง 'ยธ.' สอบดีเอสไอ ปมไม่ฟ้อง 'นิภา-ธนพล' คดีค้ามนุษย์อ่างวิคตอเรีย

เครือข่ายต้านค้ามนุษย์ ร้อง "ยธ." ตรวจสอบการใช้ดุลพินิจ "ดีเอสไอ" ไม่ฟ้อง "นิภา-ธนพล" คดีค้ามนุษย์วิคตอเรียซีเคร็ท ด้านเลขาฯรมว.ยุติธรรม ยันไม่มีมวยล้ม ดีเอสไอสอบสวนคดีตามพยานหลักฐาน เร่งตามล่าผู้ต้องหาหลบหนี

น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง ผู้จัดการมูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม พร้อมด้วย นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ และผู้แทนจาก 13 เครือข่ายองค์กรค้ามนุษย์ ยื่นหนังสือถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ตรวจสอบการดำเนินคดีค้ามนุษย์ของ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และการใช้ดุลพินิจของดีเอสไอ กรณีมีความเห็นพ้องกับอัยการที่สั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์อาบอบนวดวิคตอเรียซีเคร็ท โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรมว.ยุติธรรม เป็นผู้รับเรื่อง

นายรณสิทธิ์ กล่าวว่า ตนพบข้อมูลเบาะแสการค้าประเวณีและค้ามนุษย์กับเด็กอายุ 12-18 ปี ในสถานอาบอบนวดวิคตอเรียซีเคร็ท โดยมีเหยื่อมากกว่า 10 ราย จึงได้รวบรวมหลักฐานส่งให้ดีเอสไอดำเนินคดี กระทั่งดีเอสไอและฝ่ายปกครองได้เข้าตรวจค้นสถานบริการ ดังกล่าว และมีความเห็นส่งสำนวนให้อัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหาหลายราย 2 คดี ซึ่งทั้ง 2 คดีศาลได้ยกฟ้องจำเลยทุกคนในข้อหาค้ามนุษย์ แต่ให้ลงโทษในข้อหาเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง โดยคดียังอยู่ระหว่างอุทธรณ์ ขณะที่อัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ กลับความเห็นสั่งไม่ฟ้อง นางนิภา วิระเทพสุภรณ์ และนายธนพล วิระเทพสุภรณ์ ซึ่งดีเอสไอพิจารณาเห็นพ้องด้วยโดยไม่โต้แย้งคำสั่งดังกล่าว เครือข่ายฯ จึงติดใจว่าครั้งแรกดีเอสไอเคยมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา 2 รายดังกล่าว แต่กลับเห็นพ้องกับอัยการทั้งที่การตรวจสอบของตนเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 รายเป็นเจ้าของสถานบริการหรือไม่ จึงสงสัยการใช้ดุลพินิจของดีเอสไอ ขอให้ทางกระทรวงยุติธรรมตรวจสอบ

น.ส.ชลีรัตน์ แสงสุวรรณ ผู้ประสานงานมูลนิธิพิทักษ์สตรี กล่าวว่า คดีค้ามนุษย์วิคตอเรียซีเคร็ทเป็นภาพลักษณ์ในการแก้ปัญหาคดีค้ามนุษย์ของประเทศไทย ซึ่งคดีดังกล่าวดีเอสไอมีความเห็นสั่งฟ้องและส่งสำนวนให้อัยการ 2 สำนวน ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ต่อศาล แต่อัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์มีความเห็นกลับสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหารายสำคัญ ทั้งที่ผู้ต้องหายังไม่เคยให้การแก้ต่างสู้คดี เครือข่ายจึงมีความห่วงกังวลว่าอาจไม่มีการฟ้องศาลในคดีค้ามนุษย์ เพราะในความเป็นจริงผู้ที่กระทำผิดต้องได้รับโทษ และเป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมที่จะต้องสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยแม้จะมีการยึดอายัดทรัพย์ไว้และมีหลักฐานเพียงพอจะฟ้องผู้ต้องหาบางส่วน แต่ถ้าจะต้องถอนอายัดทรัพย์สินหรือสั่งไม่ฟ้องก็ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ ส่วนผู้ที่หลบหนีขอให้ออกมาใช้สิทธิ์ต่อสู้จะสง่างามมากกว่า

เลขานุการรมว.ยุติธรรม กล่าวว่า นายสมศักดิ์ สั่งการให้ตนมารับหนังสือร้องเรียนจากภาคเอกชนที่ตรวจสอบปัญหาการค้ามนุษย์ หลังจากนั้นจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องจากดีเอสไอมาทำความเข้าใจกับผู้ร้องและประชาชนว่าคดีที่ดีเอสไอกำลังสอบสวนมีจำนวนเท่าไร สั่งฟ้องไปเท่าไร รวมถึงความคืบหน้าการติดตามผู้ต้องหาที่หลบหนี ยืนยันว่าคดีค้ามนุษย์ไม่ใช่มวยล้มแน่นอน ดีเอสไอได้ให้ความสำคัญและดำเนินการตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ทุกคดี ไม่ใช่เฉพาะคดีค้ามนุษย์วิคตอเรียซีเคร็ท อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากให้ชี้นำเกี่ยวกับคดีค้ามนุษย์วิคตอเรีย เพราะดีเอสไอยังดำเนินคดี ผู้ต้องหาก็ถูกศาลออกหมายจับแล้ว ทรัพย์สินก็ถูกยึดอายัด รวมถึงมีการดำเนินคดีเกี่ยวกับการฟอกเงินด้วย