"เอไอเอส"ทศวรรษที่ 3 ลั่นพร้อมลงสมรภูมิ "5จี"

"เอไอเอส"ทศวรรษที่ 3 ลั่นพร้อมลงสมรภูมิ "5จี"

“29 ปีที่ผ่านมา เอไอเอสวางโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งให้กับประเทศไทยด้วยงบลงทุนกว่า 1 ล้านล้านบาท”

จากก้าวแรกในการก่อตั้ง “เอไอเอส” เมื่อปี 2533 เริ่มเข้ามาทำสัญญาสัมปทานให้บริการโทรศัพท์มือถือบนคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์กับองค์กรโทรศัพท์แห่งประเทศไทยในขณะนั้น นับเป็นการพลิกโฉมการติดต่อสื่อสารและสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับอุตสาหกรรมโทรคมนาคม

เริ่มจากยุคอะนาล็อค “เซลลูล่าร์ 900” มาสู่ “จีเอสเอ็ม 2 วัตต์” ค่อยๆย่างเข้าสู่ดิจิทัลเต็มตัว เริ่มตั้งแต่ “เอไอเอส 3จี 2100” และ “เอไอเอส 4จีแอดวานซ์” และคงได้เห็น 5จี จากเอไอเอสในอนาคตอย่างแน่นอน

ด้วยผลประกอบปี 2561 เอไอเอสมีรายได้เกิน 170,000 ล้านบาท และล่าสุดหลังจบไตรมาส 2 หรือครึ่งปีแรกเอไอเอสมีกำไรแล้วกว่า 15,000 ล้านบาท รายได้ทะลุ 87,000 ล้านบาท ยืนหนึ่งในตลาด ด้วยลูกค้ามากที่สุด

ลงทุนโครงสร้างดิจิทัล"ล้านล้านบาท"

"สมชัย เลิศสุทธิวงค์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า ในโอกาสที่เอไอเอสครบรอบ 29 ปี และก้าวสู่ปีที่ 30 นับเป็นความภาคภูมิใจของเอไอเอส ที่ได้โอกาสสร้างประวัติศาสตร์ให้กับอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมของประเทศมาอย่างต่อเนื่องเกือบ 3 ทศวรรษที่ผ่านมา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง จากยุคอนาล็อกสู่ยุค “เน็กซ์ จี” และพร้อมก้าวสู่เทคโนโลยีอนาคตอย่าง 5จี เอไอเอสไม่เคยหยุดนิ่งที่จะก้าวล้ำไปข้างหน้าหนึ่งก้าวเสมอ

29 ปีที่ผ่านมา เอไอเอสทุ่มเทวางรากฐานโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล อินฟราสตรัคเจอร์ที่แข็งแกร่งให้กับประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยงบลงทุนกว่า 1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นเงินลงทุนขยายโครงข่าย 468,000 ล้านบาท จ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้คู่สัมปทานเพื่อนำเข้ารัฐ 258,000 ล้านบาท และประมูลคลื่นความถี่ที่ผ่ามา 161,000 ล้านบาท และสุดท้ายจ่ายภาษีนิติบุคคล 166,000 ล้านบาทยังคงเดินหน้าพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อร่วมสนับสนุนการเดินหน้าเศรษฐกิจของประเทศ ท่ามกลางการแข่งขันในเวทีโลก

การก้าวสู่ปีที่ 30 เอไอเอสตั้งใจ ขอบคุณลูกค้าและคนไทยที่ให้ความไว้วางใจ โดยการมอบของขวัญพิเศษตอบแทนลูกค้าเอไอเอสและ เอไอเอส ไฟเบอร์ทั้งหมดกว่า 42 ล้านราย ผ่านโครงการสิทธิพิเศษ เอไอเอสพอยท์ ซึ่งเป็นการผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรจากทุกอุตสาหกรรม

ปรับองค์กรรับคลื่นดิจิทัล

สมชัย กล่าวว่า ท่ามกลางกระแสโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงในทุกมิติจากอิทธิพลของดิจิทัล ดิสรัปชั่น คือ โอกาสอันยิ่งใหญ่ ที่เอไอเอสขอเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยี เพื่อขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าทัดเทียมนานาประเทศ

"แน่นอนว่าพวกเราต้องพลิกวิธีคิด วิธีทำงาน วิธีมองใหม่ทั้งหมด เพื่อปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทีมผู้บริหารและพนักงานเอไอเอสทุกคนขอยืนยันว่า เราพร้อมจะมุ่งมั่นผลักดัน สร้างสรรค์ ดิจิทัลไลฟ์ที่ดีที่สุดเพื่อลูกค้า สนับสนุนและอยู่เคียงข้างสังคมไทย เพื่อร่วมก้าวผ่านทุกความท้าทายในยุคดิจิทัลดิสรัปชั่นไปด้วยกัน"

เขากล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาเอไอเอสพูดเสมอถึงการอยู่เคียงข้างสังคมไทย มุ่งมั่นพัฒนาเครือข่ายและเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย สร้างโอกาสและขีดความสามารถใหม่ๆให้กับประเทศไทยจนถึงวันนี้เกือบ3 ทศวรรษ ที่เอไอเอสยืนหยัดสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนเดินหน้าพาคนไทยก้าวสู่ที่สุดของเทคโนโลยีแห่งอนาคต พร้อมให้สัญญาด้วยหัวใจของพนักงานเอไอเอสทุกคนทั้ง 12,000 คน ที่จะไม่หยุดส่งมอบบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าและคนไทยตลอดไป

ให้ความสำคัญเรื่อง “คน”

“สมชัย” เคยให้สัมภาษณ์ว่า ยุทธศาสตร์เอไอเอส ที่ยังยืนหนึ่งในตลาดโทรคมนาคมไทย ไม่ใช่เพราะเป็นผู้ที่ถือครองคลื่นความถี่มากที่สุด แต่เพราะการให้ความสำคัญเรื่อง “คน” เป็นหลัก

“คลื่นความถี่เป็นเพียงแค่ปัจจัยเดียวในการดูแลลูกค้าของเอไอเอส” เนื่องจาก กระแสของดิจิทัล ดิสรัปชั่นบริษัทอยู่ท่ามกลางกระแสเทคโนโลยี ผู้ประกอบการบางรายอาจมีซัพพลายเออร์ช่วยบริหารจัดการคลื่นความถี่ วางตำแหน่งเสาสถานีฐาน แต่เอไอเอสมีทีมงานที่ทำวิจัยและพัฒนา (อาร์แอนด์ดี) ร่วมกับซัพพลายเออร์ด้วย จึงเชื่อมั่นว่าโอเปอเรเตอร์รายอื่นไม่มีตรงนี้ ซึ่งมากไปกว่านั้น จากเรื่องคลื่นความถี่ เรื่องเทคโนโลยี คือ เรื่องคน

ที่ผ่านมา เอไอเอสให้ความสำคัญในการฝึกทักษะบุุคลากรมาก รวมไปถึงการให้โอกาสพนักงานรุ่นใหม่ได้ต่อยอดความคิดสร้างสรรค จนสามารถสร้างเป็นบริการใหม่ๆ สู่คนไทย

อัดโปรฯพิเศษ-เดินหน้ามิชชั่นกรีน

ในโอกาสขึ้นปีที่ 30 เอไอเอสพร้อมมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้า โดยจะมอบพอยท์พิเศษเพิ่มให้ลูกค้าทั้งเอไอเอสและ เอไอเอส ไฟเบอร์รวมจำนวนกว่า 42 ล้านราย ตามอายุการใช้งาน ยิ่งอยู่นาน ยิ่งได้รับพอยท์มาก เช่น ใช้บริการน้อยกว่า 10 ปี รับพอยท์ 30 พอยท์, มากกว่า10ปี รับ 60 พอยท์ และ มากกว่า 20 ปี รับ 90 พอยท์ นำไปแลกรับสิทธิพิเศษ ซึ่งเอไอเอสได้ขยายความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ 1,918 แบรนด์ มีจำนวนสาขารวมที่ให้บริการ 27,155 ร้านทั่วประเทศ

สมชัย กล่าวด้วยว่า เอไอเอส ยังมีความมุ่งมั่นในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยสร้างองค์ความรู้เพื่อให้คนไทยตระหนักถึงผลเสียของการทิ้งขยะอย่างไม่ถูกวิธี และรวบรวมขยะอิเล็กทรอนิกส์ร่วมกับพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อนำขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่การกำจัดอย่างถูกวิธี เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นของทุกคนและลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ตกค้างในไทย

โดยคนไทยสามารถทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ ได้ที่ถังขยะ E-Waste จากเอไอเอส ที่จะตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ อาทิ เอไอเอส ช้อปและศูนย์การค้าในเครือเซ็นทรัล และในอนาคตจะถูกกระจายไปยังมหาวิทยาลัยในประเทศไทย โดยขยะจากถังจะถูกนำไปจัดการ และทำลายอย่างถูกวิธี ด้วยกระบวนการ “Zero landfill”