ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟัน พ่นพิษทำ การทางพิเศษเจอพิษดอกเบี้ยอ่วม

รายงานข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานและฐานะการเงินรอบ 6 เดือน ปีงบประมาณ 2562 (1 ต.ค.2561- 31มี.ค.2562 ) โดยระบุว่า ในช่วงดังกล่าว กทพ.มีกำไรรวม 3,729  ล้านบาท ลดลง 1,324 ล้านบาท หรือประมาณ 26.21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรอยู่ที่ 5,054  ล้านบาท

ขณะที่รายได้รวมในช่วงดังกล่าวอยู่ที่ 9,201  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 406  ล้านบาท หรือประมาณ 4.62 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็นรายได้จากค่าผ่านทาง 7,358  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 97.43 ล้านบาท หรือ 1.34% และรายได้อื่นๆ 1,842 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 309  ล้านบาท หรือ 20.15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนค่าใช้จ่ายช่วง 6 เดือน รวมทั้งสิ้น 5,471 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,731  ล้านบาท หรือประมาณ 31% เนื่องจากปีนี้ กทพ.มีภาระต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นจำนวนมาก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยต้นทุนทางการเงินปีนี้มีตัวเลขสูงถึง 1,843 ล้านบาท ขณะที่ปีก่อนมีต้นทุนทางการเงินอยู่เพียง 410 ล้านบาท ส่งผลให้ภาพรวมของภาระต้นทุนทางการเงินในปีนี้เพิ่มขึ้นถึง 1,432  ล้านบาท หรือประมาณ 348 %

รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า กทพ.มีกำไรในรอบ 6 เดือนแรกหายไปประมาณ 1,300 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนราว 26% สาเหตุหลักเป็นเพราะว่าปีนี้ กทพ. มีภาระต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นจากภาระดอกเบี้ยจ่ายที่เกิดจากการกระดมทุนจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย ไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์ (TFFIF) จำนวน 1,537 ล้านบาท เทียบกับเมื่อช่วง 6 เดือนของปีก่อน กทพ.ยังไม่มีภาระดอกเบี้ยรายการนี้ ทำให้สถานะทางการเงินในปัจจุบันผลประกอบการเริ่มถดถอยลงเรื่อยๆ

ทั้งนี้ จากการสำรวจภาระดอกเบี้ยจ่ายที่เกิดจากการระดมทุนผ่านกองทุนไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์ วงเงิน 44,811 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างทางด่วนพระราม3 – ดาวคะนอง วงแหวนรอบนอก กรุงเทพมหานครด้านตะวันตก พบว่า ณ สิ้นเดือน ส.ค.2562 กทพ.มีภาระดอกเบี้ยจ่ายรวม 2,100 ล้านบาท ดังนั้น หลังจากสิ้นปีงบประมาณ 2562 กทพ.จะนัดหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อขอยกเว้นภาระดอกเบี้ยทั้งหมดที่เกิดจากการระดมทุนผ่านกองทุนไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์

“ก่อนหน้านี้การทางฯ เคยหารือ และทำความตกลงกับทางสคร.ไว้แล้วว่า หากรัฐบาลต้องการให้การทางฯ ระดมทุนผ่านกองทุน TFF ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ 8% สูงกว่าการกู้ยืมทั่วไปที่อยู่ที่ 3-4% หากทำให้เกิดภาระทางการเงินในอนาคต รัฐบาลจะเข้ามาช่วยรับภาระตรงนี้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อผลการดำเนินการของเรา ซึ่ง สคร.ก็รับปากที่จะช่วยเหลือ ซึ่งตอนนี้ก็เห็นแล้วว่าเป็นผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในเดือน ต.ค. นี้ การทางฯ จะต้องไปหารือกับ สคร.เพื่อขอยกเว้นภาระดอกเบี้ย ซึ่ง ณ สิ้นเดือน ส.ค.มียอดอยู่ที่ 2,100 ล้านบาทแล้ว”

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างโครงการทางพิเศษ (ทางด่วน) สายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตก ซึ่งเป็นโครงการเป้าหมายที่ กทพ.จะนำเงินจากกองทุนมาลงทุน ขณะนี้คณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ.เห็นชอบผลการประมูลอย่างเป็นทางการแล้วจำนวน 2 สัญญา คาดว่าจะสามารถประกาศผลผู้ชนะ พร้อมลงนามสัญญาได้ในช่วงต้นเดือน ต.ค.นี้ ส่วนอีก 2 สัญญาที่เหลือจะนำเข้าบอร์ดพิจารณาเดือนนี้ เพื่อทยอยประกาศผลต่อไป

สำหรับสัญญาประกวดราคาที่ผ่านการพิจารณา ได้แก่ สัญญาที่ 2 ระยะทาง 5.3 กิโลเมตร ที่มีกิจการร่วมค้า CTB ประกอบด้วย China Harbour Engineering Company Limited, บริษัท ทิพากร จำกัด และบริษัท บุรีรัมย์ธงชัยก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูลด้วยราคา 6,440 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าราคากลาง 11.06%และสัญญาที่ 4 งานก่อสร้างสะพานขึงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ระยะทาง 2 กิโลเมตร ที่มีบริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เป็นผู้ชนะการประมูลด้วยราคา 6,636 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าราคากลาง 16.46%