ตลท.เตือนระวังป้อนคำสั่ง'ปั่นหุ้น' ร่อนหนังสือกำชับโบรก เคลียร์ปมออเดอร์ไม่เหมาะสม

ตลท.เตือนระวังป้อนคำสั่ง'ปั่นหุ้น' ร่อนหนังสือกำชับโบรก เคลียร์ปมออเดอร์ไม่เหมาะสม

ตลาดหลักทรัพย์ ร่อนหนังสือเวียนถึงโบรกเกอร์ เตือนระวังการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นไม่เหมาะสม ห่วงเข้าข่ายการปั่นหุ้น ย้ำมีความผิดตามกฎหมายหลักทรัพย์ “ภากร” แจงเพื่อทำความเข้าใจที่ตรงกัน หลังยังพบบางรายกระทำผิด

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.ได้ส่งหนังสือเวียนไปยังบริษัทหลักทรัพย์(โบรกเกอร์) ทุกแห่ง เพื่อกำชับถึง “การส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นที่ไม่เหมาะสม” โดยที่ผ่านมา ตลท. ได้ขอให้โบรกเกอร์ละเว้นการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นที่ไม่เหมาะสมเข้ามาในระบบ โดยเฉพาะคำสั่งที่อาจทำให้ราคาหรือปริมาณซื้อขายหุ้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด

ทั้งนี้ ตลท. ได้ยกตัวอย่างการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นที่ไม่เหมาะสม เพื่อให้โบรกเกอร์มีความเข้าใจที่ดีมากขึ้นว่า คำสั่งซื้อขายแบบใดที่ไม่เหมาะสมและอาจนำไปสู่การสร้างราคาหุ้น ซึ่งถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 

"เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแล ตลท. จึงได้เพิ่มเติมการอธิบายตัวอย่างพฤติกรรมในแต่ละประเภทให้เห็นภาพมากขึ้น(Visualization)และปรับปรุงการจัดกลุ่มประเภทตัวอย่างลักษณะของคำสั่งไม่เหมาะสมเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติงานต่อไป"หนังสือเวียนฉบับดังกล่าวระบุไว้

รายงานข่าว ระบุด้วยว่า ตลท. ได้หารือและรับฟังความคิดเห็นร่วมกับผู้ปฎิบัติงานที่มีหน้าที่ในการกำกับดูแลสมาชิกผ่านชมรม Compliance ของสมาคมโบรกเกอร์แล้ว

สำหรับคำสั่งที่ไม่เหมาะสม เช่น ช่วงก่อนเปิดหรือปิดตลาด โดยเฉพาะในเวลาที่จะได้รับการสุ่มราคาเปิดหรือปิด เช่น 9.55-10.00 น. และ 16.30-16.40 น. ส่งคำสั่งซื้อหรือขายหุ้นในราคาที่สูงหรือต่ำกว่าที่ควรจะเป็นมากๆ จากราคาซื้อขายล่าสุด(last execute) เช่น ประมาณ10 ช่วงราคา หรือ 10% ซึ่งมีผลให้ projected index หรือ ราคา(Index) สูงหรือต่ำอย่างมีนัยสำคัญ และทำบ่อยครั้ง ในระยะเวลาต่อเนื่อง 

ส่วนคำสั่งซื้อขายไม่เหมาะสมในลักษณะ "จับคู่ซื้อขายกันเอง" เพื่ออำพรางให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดในราคา หรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ โดย เป็นคำสั่งของบุคคลเดียวกัน หรือระหว่างกลุ่มบุคคลซึ่งในที่สุดผู้ได้ประโยชน์จากการซื้อหรือขายยังคงเป็นบุคคลคนเดียวกัน หรือ ส่งคำสั่งซื้อและขายหุ้นในราคาและปริมาณที่อาจจับคู่ซื้อขายระหว่างกันเองได้ทั้งจำนวนหรือบางส่วนอย่างมีนัยสำคัญ 

การส่งคำสั่งซื้อขายในลักษณะ “ผลักดัน” หรือ “ชี้นำราคา” เช่น ส่งคำสั่งซื้อหรือขายหลักทรัพย์หลายคำสั่ง เช่น ประมาณ 10 ครั้ง ในลักษณะเคาะซื้อขาย หรือ กวาด Offer (bid) อย่างต่อเนื่อง หรือส่งคำสั่งที่ทำให้ราคาเปลี่ยนแปลงไปมากจากราคาซื้อขายล่าสุด เช่น ประมาณ 10% 

นอกจากนี้ การส่งคำสั่งซื้อหรือขายในปริมาณมากๆ และได้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวในภายหลังในเวลาใกล้เคียงกัน และกระทำหลายๆ ครั้ง โดยไม่ได้จะซื้อขายหุ้นนั้นจริง ก็ถือเป็นคำสั่งที่ไม่เหมาะสมด้วย ขณะเดียวกัน การส่งคำสั่งในลักษณะแตกย่อยปริมาณน้อยในระดับราคาเดียวกันในระยะเวลาใกล้ ทั้งที่สามารถส่งคำสั่งได้ในคราวเดียว ถือเป็นคำสั่งที่ไม่เหมาะสมเช่นกันเนื่องจากเป็นลักษณะของการพยุงราคา 

รายงานระบุด้วยว่า การส่งคำสั่งซื้อขายในราคาที่สูงหรือต่ำกว่าที่ควรจะเป็นมากๆ ซึ่งโดยปกติแล้วไม่น่าจะเกิดการจับคู่ซื้อขายได้หรือไม่ได้ต้องการทำให้เกิดการซื้อขายตามราคานั้นจริง ถือเป็นหนึ่งในคำสั่งไม่เหมาะสม ซึ่งกรณีนี้ส่วนใหญ่จะพบในหุ้นที่ซื้อขายวันแรกหรือที่ไม่มี ซิลลิ่ง และ ฟลอร์

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า สาเหตุที่ ตลท. ต้องส่งหนังสือเวียนในเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมายังมีโบรกเกอร์บางรายทำผิดเรื่องการส่งคำสั่งซื้อขายไม่เหมาะสม ประกอบกับโบรกเกอร์หลายแห่ง ยังมีคำถามว่า คำสั่งซื้อขายแบบไหนที่ไม่เหมาะสมบ้าน ทาง ตลท. จึงได้ทำตัวอย่างออกมาเพื่อให้โบรกเกอร์มีความเข้าใจมากขึ้น ซึ่งจะช่วยป้องกันการกระทำผิดด้วย

"โบรกเกอร์เคยทำผิด เราเลยทำให้เขาดูว่าผิดเพราะอะไร จะได้ไม่ทำผิดอีก และเขาสงสัยว่าอะไรคือการส่งคำสั่งซื้อขายไม่เหมาะสม"นายภากร กล่าว

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า คาดว่าที่ตลาดหลักทรัพย์ฯส่งหนังสือเวียนตัวอย่างการส่งคำสั่งซื้อขายไม่เหมาะสม คงจะเป็นการทบทวนความจำปกติว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้  เชื่อว่าไม่ได้เกิดจากมีคำสั่งซื้อขายไม่เหมาะสมมากขึ้น เพราะ มูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์ช่วงนี้เบาบาง ซึ่งหากจะมีการส่งคำสั่งซื้อขายไม่เหมาะสมจะทำในช่วงที่วอลุ่มหนา เพื่อทำให้ตรวจสอบยาก หากทำในช่วงวอลุ่มบางก็จะถูกตรวจสอบพบได้ง่าย