'แอลเอชแบงก์'รุกเจาะตลาดเทรดไฟแนนซ์

'แอลเอชแบงก์'รุกเจาะตลาดเทรดไฟแนนซ์

"แอลเอชแบงก์" เปิดแผนงานปี 63 เน้นทำตลาดเชิงรุก มุ่งปล่อยสินเชื่อบ้าน เจาะกลุ่มรายได้ปานกลาง-สูง เน้นราคา 5 ล้านบาท ขึ้นไป ตั้งเป้ายอดสินเชื่อใหม่ 8 พันล้าน พร้อมลุยธุรกิจเทรดไฟแนนซ์เต็มตัว หลังได้พันธมิตรไต้หวันแบล็กอัพ

นางสาวชมภูนุช ปฐมพร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ หรือแอลเอชแบงก์ กล่าวภายหลังเข้ารับตำแหน่ง “เอ็มดี” แอลเอชแบงก์ว่า แผนธุรกิจของแอลเอชแบงก์หลังจากนี้ จะทำการตลาดในเชิงรุกมากขึ้น โดยเน้นการเติบโตในส่วนของสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งตั้งเป้าไว้ที่ 8 พันล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าซื้อบ้านราคาเกิน 5 ล้านบาทขึ้นไป เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ และยังมีดีมานด์อยู่มาก

นอกจากนี้ ธนาคารจะเข้าไปรุกตลาดในส่วนของเทรดไฟแนนซ์ หรือธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ที่พันธมิตรไต้หวันมีความเชี่ยวชาญ เพราะเชื่อว่าธุรกิจส่งออกจะเริ่มกลับมาเติบโตได้ จากสถานการณ์สงครามการค้าที่น่าจะชัดเจนมากขึ้น 

ขณะเดียวกัน อีกกลุ่มที่ธนาคารหวังจะเข้าไปเติบโตมากขึ้น คือกลุ่ม Mid Corporate หรือธุรกิจขนาดกลางที่มียอดขายราว 500-1,000 ล้านบาท แม้ว่ากลุ่มนี้ยังมีการแข่งขันสูง แต่ก็ยังเป็นโอกาส และช่องว่างในการเข้าไปเติบโตด้านสินเชื่อ และฐานลูกค้าใหม่อีกมาก และลูกค้ากลุ่มนี้ถือเป็นลูกค้าที่ศักยภาพ ดังนั้นระหว่างนี้ธนาคารอยู่ระหว่างสร้างทีม และเตรียมนำระบบการให้บริการจากไต้หวัน เข้ามาช่วยในการให้บริการกลุ่มนี้มากขึ้น ซึ่งคาดว่าระบบดังกล่าวน่าจะนำมาใช้ได้ราวไตรมาส 2ปีหน้า

นอกจากนี้ จะเน้นขยายฐานลูกค้ากลุ่ม wealth มากขึ้น โดยเฉพาะขยายฐานไปสู่กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มเวลล์รุ่นลูกหลาน เจเนเรชั่น 2-3 มากขึ้น และกลุ่มที่กำลังจะรวย รวมถึงการหารายได้จาก การผลักดันกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) และธุรกิจแบงก์แอชัวรันส์ เพิ่มขึ้น เพราะการให้บริการเหล่านี้ จะทำให้ธนาคารมี fee based income หรือรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น เพื่อมาชดเชยรายได้จากดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มต่ำลงได้

“ปีหน้าเราจะรุกหลายด้านมากขึ้น เพื่อสร้างรายได้ใหม่ๆให้กับธนาคาร ในด้านที่เราเชี่ยวชาญอยู่แล้ว เช่นอสังหาฯเราก็จะยังคงมุ่งไปทางนั้น แต่จะเน้นไปสู่กลุ่มที่มีศักยภาพมากขึ้น และปีหน้าที่จะเห็นอีกด้าน คือการมารุกดิจิทัลของแบงก์ เพื่อทำให้การให้บริการบนโมบายมีความหลากหลายมากขึ้น เพราะวันนี้เรายังมีฐานลูกค้าน้อยที่ให้บริหารโมบายแบงกิ้งจากเรามีเพียง 1แสนกว่าคนเท่านั้น และปีหน้าเราจะรุกดิจิทัลเลนดิ้ง โดยจะจับมือกับสตาร์ทอัพ หรือเอาเทคโนโลยีใหม่จากสตาร์ทอัพมาช่วยในการรุกดิจิทัลแพลตฟอร์ม ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นการรุกด้านนี้ได้ราวไตรมาส 2ปีหน้า”

สำหรับภาพรวมธุรกิจปีนี้ สินเชื่อยังทรงๆตัว เนื่องจากมียอดชำระคืนบางส่วน อีกทั้งภายใต้ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ธนาคารมีการระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ดังนั้นคาดว่าสินเชื่อรวมของธนาคารน่าจะเติบโตได้ทรงๆหรือเล็กน้อยเท่านั้นหากเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 4,000-5,000 ล้านบาท

“ปีนี้สินเชื่อทรงๆ เพราะต้องยอมรับว่า ปีก่อนเราระวังปล่อยกู้ที่อยู่อาศัยเร็วไป เพราะเราเห็นทิศทางความเสี่ยงในตลาดนี้มากึ้น ทำให้เราปลอ่ยแอลทีวีใกล้ที่เข้มงวดกว่าเกณฑ์ของธปท. กำหนด ทำให้สินเชื่ออสังหาเราลดลงเร็ว ทำให้พอร์ตเราไปโตด้านอื่นๆโดยเฉพาะธุรกิจรายใหญ่ ที่วันนี้ขึ้นมาอยู่ในพอร์ตถึง 50% ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีนี้ เราจะยังปล่อยสินเชื่อต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินเชื่อที่ให้กับภาคธุรกิจ ส่วนเอ็นพีแอลเราทำได้ดี เพราะเราระวังเร็วกว่าคนอื่นๆ ในภาคอสังหาฯ ทำให้เอ็นพีแอลรวมเราไม่ได้ขยับ ยังรักษาระดับได้ราว 2%”