หุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ

หุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ

บล.กรุงศรี คาดหุ้นไทยแกว่งตัว 1,600-1,620 จุด จากภาวะแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐอ่อนแอลง โดยดัชนีภาคบริการเดือนก.ย.ลงต่ำสุดในรอบ 3 ปี ดัชนีภาคการผลิตลงต่ำสุดในรอบ 10 ปี เป็นสัญญาณเตือนเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวจากผลกระทบ Tradewar

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี ระบุว่า วานนี้ (3 ต.ค.) SET Index อ่อนตัวลง -2.95 จุด (-0.18%) ปิดที่ระดับ 1,610 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.8 หมื่นล้านบาท จากความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-ยุโรปหลัง WTO เห็นชอบข้อเรียกร้องของสหรัฐในการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากยุโรปวงเงิน 7.5 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากรัฐบาลในประเทศยุโรปให้การอุดหนุนบริษัทแอร์บัสอย่างผิดกฎหมาย ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงเป็นตัวกดดันดัชนี ส่วนนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิ 1,468 ล้านบาท และ ขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 3,357 ล้านบาท รวมถึง Net Short TFEX จำนวน 497 สัญญา

สำหรับ แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (4 ต.ค.) เรามีมุมมองเป็นกลางคาด SET แกว่งตัว 1,600-1,620 จุด โดยภาวะตลาดมีแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐอ่อนแอลง โดยดัชนีภาคบริการเดือนก.ย.ลงต่ำสุดในรอบ 3 ปีที่ระดับ 52.6 จุด รวมถึงดัชนีภาคการผลิตลงต่ำสุดในรอบ 10 ปีที่ 47.8 จุดซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวจากผลกระทบ Tradewar ส่งผลให้กระแส Fund flow ยังคงมีแนวโน้มไหลออกต่อไปในช่วงนี้

อย่างไรก็ตามความคาดหวังเชิงบวกครม.เศรษฐกิจเตรียมพิจารณามาตรการกระตุ้นด้านการส่งออก-ท่องเที่ยวในวันที่ 7 ต.ค. , การเจรจาข้อพิพาทการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐ-จีนในสัปดาห์หน้า (10 – 11 ต.ค.) รวมถึงการที่ Fedwatch เพิ่มคาดการณ์ว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุม 29 – 30 ต.ค.เพื่อรองรับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวซึ่งเป็นปัจจัยบวกที่จะช่วยพยุงดัชนีในจังหวะที่อ่อนตัวลงได้

ด้านกลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy กลุ่มท่องเที่ยว (ERW, MINT ) และส่งออก (GFPT, TU) ครม.เศรษฐกิจจะพิจารณามาตรการกระตุ้นศก.ด้านการส่งออก-ท่องเที่ยวในวันที่ 7 ต.ค. กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD, THANI) ได้ประโยชน์ต้นทุนลดลงจากทิศทางดอกเบี้ยขาลง Defensive stock AOT, INTUCH, ADVANC, BEM, BTS, BDMS, BCH, CHG, GPSC, BGRIM, TTW, CPALL

ขณะที่ หุ้นแนะนำวันนี้ GPSC (ปิด 70.5 ซื้อ/เป้า 78 บาท) Bond yield ตลาดจะกลับมาสนใจหุ้นปันผลและหุ้นที่ให้รายได้มั่นคงและสม่ำเสมออีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มโรงไฟฟ้า ซึ่งเรามองว่า GPSC ยังมีความน่าสนใจเนื่องจาก Valuation ยังไม่แพงหากเทียบกับกำไรที่จะเพิ่มขึ้นจากการรวมหุ้นและผลประกอบการของ GLOW พลังงานเข้ามาตั้งแต่ 4Q19 JMT (ปิด 18.4 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 24) ทยอยสะสมคาดแนวโน้มกำไรจะยังพุ่งทำ All time high ได้ทุกไตรมาสจากรายได้ของการเรียกเก็บหนี้ที่เพิ่มขึ้นตามพอร์ตหรือฐานลูกหนี้ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีพอร์ตหนี้ในการบริหารทั้งหมด 1.4 แสนล้านบาท สามารถสร้างกระแสเงินสดต่อเนื่องไปได้อีกอย่างน้อย 12 ปี