กสพท ปี 63 เปิดรับเด็กกลุ่มแพทย์ 2,650 คน พร้อมเผยปฎิทินการรับสมัคร

กสพท ปี 63 เปิดรับเด็กกลุ่มแพทย์ 2,650 คน พร้อมเผยปฎิทินการรับสมัคร

กสพท ประกาศเกณฑ์การคัดเลือกกลุ่มแพทย์ ทีแคส รอบ 3 ปี 2563 ระบุปีนี้รับจำนวน 2,650 คน กำชับรหัสเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ตรวจสอบให้รอบคอนก่อนสมัคร เผยค่าสมัคร 800 บาท เปิดปฎิทินรับสมัคร สอบวิชาเฉพาะของกสพท. 10-31 ต.ค.2562 สมัครผ่านเว็บไซต์

       วันนี้ (3 ต.ค.2562)กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท)  ได้แถลงข่าวการรับสมัครการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต หลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต หลักสูตรสัตวแพทยศาสตรบัณฑิต และหลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต ปีการศึกษา 2563 โดยมีนพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัน และนวัตกรรม (อว.)พร้อมด้วย นพ.อาวุธ ศรีสุกรี เลขาธิการ กสพท  พญ.บุญมี สถาปัตยวงศ์ ประธานคณะอนุกรรมการคัดเลือก กสพท และ นาย สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ร่วมกันแถลงข่าว

      นพ.อาวุธ กล่าวว่า กสพท เข้าร่วมคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในระบบกลาง หรือ ทีแคส  ปีการศึกษา 2563  โดยรับในรอบที่ 3 การรับตรงร่วมกัน (แอดมิชชั่น 1) ซึ่ง ทปอ.จะเป็นหน่วยงานในการรับสมัครผ่านเว็บไซต์ของ ทปอ. และกำหนดเทียบให้ กสพท เสมือนเป็น 1 ในมหาวิทยาลัยที่มี 54 สาขาวิชา ใน 46 สถาบัน ภายใต้ กสพท.และกำหนดให้แต่ละวิชาเป็น 1 ใน 6 อันดับ ที่ผู้สมัครสามารถเลือกได้ตามที่ทปอ.กำหนด  ได้แก่ แพทยศาสตรบัณฑิต 21 อันดับ จาก 16 สถาบัน  , ทันตแพทยศาสตรบัณฑิต 9 อันดับ จาก 9 สถาบัน ,สัตวแพทยศาสตรบัณฑิต 11 อันดับ จาก 10 สถาบัน และเภสัชศาสตรบัณฑิต 13 อันดับ จาก 11 สถาบัน ซึ่งผู้ที่สมัครเลือกสาขาที่ร่วมการคัดเลือก กสพท ต้องมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์การคัดเลือก  โดยสิ่งที่ กสพท.ยึดมากที่สุด คือ ความถูกต้อง ตรงไปตรงมา จึงอยากกำชับผู้สมัครทุกคนให้ดูรายละเอียดให้รอบคอบ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพราะการสมัครถือเป็นการทดสอบในเรื่องของความรับผิดชอบ และความรอบคอยอย่างหนึ่ง

     พญ.บุญมี กล่าวว่า กสพท ได้ออกประกาศ เรื่องหลักเกณฑ์การคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต ทันตแพทยศาสตรบัณฑิต สัตวแพทยศาสตรบัณฑิต และเภสัชศาสตรบัณฑิต ปีการศึกษา 2563 ของ กสพท  โดยคุณสมบัติพื้นฐานของผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกฯ ต้องเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบสูง มีความละเอียดรอบคอบ ซื่อสัตย์ สุจริตที่สามารถแสดงให้เห็นได้ทุกขั้นตอนในการสมัคร ต้องเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายตามหลักสูตรหรือกำลังศึกษาชั้นปีสุดท้ายในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และคาดว่าจะจบการศึกษาก่อนเดือน ก.ค.2563และต้องเป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาหรือกำลังศึกษาในสายวิทยาศาสตร์หรือเทียบเท่า เท่านั้น ต้องไม่เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัย/สถาบันการศึกษาของรัฐ เว้นแต่ได้รับการอนุมัติให้ลาออกจากมหาวิทยาลัยก่อนวันที่ 17 เม.ย.2563 ต้องไม่เป็นผู้ที่กำลังศึกษาเกินชั้นปีที่ 1 ในมหาวิทยาลัย/สถาบันการศึกษาของรัฐ ยกเว้นผู้ที่ได้รับการอนุมัติให้ลาออกจากการศึกษา โดยได้รับการอนุมัติให้ลาออกจากมหาวิทยาลัยที่ศึกษาก่อนวันที่ 31 ต.ค.2562  และผู้ที่คาดว่าจะจบการศึกษาระดับอุดมศึกษาในปีการศึกษา 2562

       นอกจากนั้น ทางกสพท ได้ประกาศหลักเกณฑ์การสมัครและสอบวิชาเฉพาะของ กสพท โดยปฏิทินการดำเนินการ มีดังนี้ รับสมัครสอบวิชาเฉพาะของ กสพท วันที่ 10-31 ต.ค. 2562  ซึ่งเมื่อผู้สมัครสมัครเสร็จสิ้นแล้ว ขอให้ตรวจสอบสถานภาพการสมัครสอบ  เอกสารและการชำระเงินให้ครบถ้วน เพราะหลังจากวันที่ชำระเงินค่าสมัครแล้ว 7 วัน หากพบว่าเอกสารไม่สมบูรณ์ให้ทำการแก้ไขก่อน เวลา 16.00 น.ของวันที่ 15  พ.ย.2562 สอบวิชาเฉพาะ กสพท วันที่ 7 มี.ค. 2563 ประกาศคะแนนวิชาเฉพาะ วันที่ 25 มี.ค. 2563 ยื่นคำร้องขอตรวจสอบคะแนนวิชาเฉพาะ วันที่ 25-27 มี.ค. 2563  สมัครผ่านระบบทีแคส 63 และชำระเงินค่าสมัครตามจำนวนสาขาวิชาที่เลือก โดยผู้สมัครสามารถเลือกได้สูงสุด 6 สาขาวิชา วันที่ 17-27 เม.ย.2563  กสพท ส่งรายชื่อผู้สมัครที่ได้จัดเรียงลำดับของแต่ละสาขาวิชาเข้าระบบทีแคส 63  วันที่ 2 พ.ค. 2563  ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าสอบสัมภาษณ์และตรวจสุขภาพในระบบ ทปอ. วันที่ 8 พ.ค. 2563  สถาบันสอบสัมภาษณ์ ตรวจสุขภาพ วันที่ 11-15 พ.ค. 2563  กสพท ส่งรายชื่อผู้ผ่านการสอบสัมภาษณ์และตรวจสุขภาพให้ทปอ. วันที่ 16 พ.ค.2563 และ ทปอ.ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสอบสัมภาษณ์และตรวจสุขภาพ วันที่ 17 พ.ค. 2563 ทั้งนี้ สำหรับการสมัครสอบการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) และ 9 วิชาสามัญ รวมถึงการประกาศผลสอบ ให้ติดตามจาก สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.)  

      พญ.บุญมี กล่าวต่อว่า การสมัครสอบวิชาเฉพาะของ กสพท ผู้สมัครจะต้องเตรียมเอกสารและอัปโหลดใบสมัครและเอกสารประกอบการการสมัครให้ครบ จากนั้นชำระค่าสมัครสอบวิชาเฉพาะของ กสพท จำนวน 800 บาท ตั้งแต่ 10 ต.ค. ในเวลา 23.00 น. ของวันที่ 4 พ.ย. 2562 โดยสามารถชำระค่าสมัครผ่านทางโมบายแอปพลิเคชันของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ และเคาน์เตอร์ธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งหลังจากชำระเงินค่าสมัครแล้ว 7 วันให้ตรวจสอบสถานภาพการสมัคร กสพท ปี 63 เปิดรับเด็กกลุ่มแพทย์ 2,650 คน พร้อมเผยปฎิทินการรับสมัคร สอบ หากเอกสารไม่สมบูรณ์ให้ทำการแก้ไขก่อนเวลา 16.00 น. ของวันที่ 15 พ.ย. 2562 หากไม่แก้ไขให้สมบูรณ์จะไม่มีสิทธิเข้าสอบ ส่วนการยื่นคำร้องกรณีไม่มีสิทธิเข้าสอบวิชาเฉพาะตั้งแต่วันที่ 18-22 พ.ย. 2562 สำหรับสนามสอบวิชาเฉพาะมี 8 สนาม คือ กทม.และปริมณฑล  เชียงใหม่  ขอนแก่น สงขลา พิษณุโลก อุบลราชธานี ชลบุรี และนครราชสีมา

      ส่วนเกณฑ์การคัดเลือกปีการศึกษา 2563  นั้นไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง ยังคงพิจารณาตามเดิม คือ คะแนนโอเน็ต รวม 5 กลุ่มสาระ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม คะแนนรวมต้องไม่น้อยกว่า 60% ซึ่งเป็นเงื่อนไข แต่ไม่นำมาคิดคะแนน โดยวิชาสามัญที่จัดสอบโดย สทศ. น้ำหนัก 70% แบ่งได้ ดังนี้ วิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา) 40% คณิตศาสตร์1 20% ภาษาอังกฤษ 20% ภาษาไทย 10% และสังคมศึกษา 10% ได้เท่ากับหรือมากกว่า 30% ของคะแนนเต็มในแต่ละกลุ่มสาระวิชา และวิชาเฉพาะ น้ำหนัก 30% เป็นการทดสอบศักยภาพในการเรียนรู้ ได้แก่ ความสามารถในการจับใจความ คิดวิเคราะห์ เชื่อมโยงความเป็นเหตุผล การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการประเมินแนวคิดทางจริยธรรม

      พญ.บุญมี กล่าวอีกว่าอยากฝากนักเรียนทุกคนขอให้ตรวจสอบความถูกต้อง และปฏิบัติตามกรอบเวลาที่กำหนด โดยเฉพาะการตรวจสอบเอกสารการสมัครต่างๆ  ควรตรวจสอบตั้งแต่ การลงรายชื่อในเอกสารให้ครบถ้วน เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง และให้เก็บเอกสารตัวจริง ซึ่งเป็นเอกสารที่ใช้ในการอัพโหลดส่งให้กสพท ใบสมัครต้องสั่งพิมพ์เก็บไว้เป็นหลักเพื่อมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์  โดยเฉพาะลายมือชื่อเป็นสิ่งสำคัญมาก อยากให้สมัครด้วยตนเอง  เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนในวันสอบและวันสัมภาษณ์ และต้องเข้ามาตรวจสอบสถานภาพการสมัครหลังชำระเงินแล้ว 7 วัน เพราะที่ผ่านมา ปัญหาที่พบมากคือการชำระเงิน เนื่องจากไม่ได้เข้ามาตรวจสอบ ทำให้การสมัครไม่สมบูรณ์ ส่วนเรื่องรูปภาพการสมัครนั้น ขอเป็นรูปหน้าตรงสุภาพ เป็นทางการ ไม่ชูนิ้ว ไม่ถ่ายแบบแฟชั่น อย่างไรก็ตาม การสมัครผ่าน ทีแคสขอให้ตรวจสอบรหัสและชื่อคณะให้ชัดเจน เพราะปีนี้มีการขยับรหัสคณะตั้งแต่ลำดับที่ 15 เป็นต้นไป ซึ่งทุกคนสามารถเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ www9.si.mahidol.ac.th