เน้นหุ้นท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากน้ำมันลง และที่มีผลการดำเนินงานครึ่งหลังดี

เน้นหุ้นท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากน้ำมันลง และที่มีผลการดำเนินงานครึ่งหลังดี

ความกังวลเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นหลังสหรัฐฯเตรียมเก็บภาษีจากสหภาพยุโรป

หลังจากองค์การการค้าโลก (WTO) ลงมติเห็นชอบต่อข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ในการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากยุโรปวงเงิน 7.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ  เนื่องจากสหภาพยุโรปการอุดหนุนการค้าที่ไม่เป็นธรรมต่อการผลิตเครื่องบินแอร์บัส A350 และ A380 โดยอาจมีการเริ่มเก็บภาษี 18 ต.ค.และมีการเจรจากับทางยุโรป อย่างไรก็ตามประเด็นดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลต่อการตอบโต้ทางการค้า อาจเพิ่มความเสี่ยงของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ส่งผลให้หุ้นสหรัฐฯ ทุกดัชนีปรับลดลง 1.5-1.8% ขณะที่ดัชนีหุ้นยุโรปปรับลดลง 2-3%

การใช้จ่ายงบประมาณล่าช้า กดดันหุ้นบริโภคในประเทศ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ตุลาคมเป็นเดือนที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ย 0.93% และ SET Index ปรับขึ้น 7 ใน 10 ครั้ง อย่างไรก็ตามปัจจัยภายในประเทศในปีนี้ค่อนข้างอ่อนแอ เนื่องจากการผ่านงบประมาณที่ล่าช้า ทั้งจากการได้รัฐบาลช้า และปัญหาเรื่องเสถียรภาพ ทำให้การผ่านงบประมาณจะเกิดขึ้นในช่วง ม.ค.-เม.ย. ส่งผลให้การใช้จ่ายและบริโภคในประเทศจะค่อนข้างขาดแรงส่งในช่วง ไตรมาส 4/62-1/63 ก่อนจะฟื้นในช่วงไตรมาส 2/63 เป็นต้นไป

กลุ่มท่องเที่ยว กำลังเข้าสู่ช่วง high season จำนวนนักท่องเที่ยวส.ค.ที่ 3.466 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.4% และนักท่องเที่ยวจีนกลับมาเกิน 1 ล้านคนในรอบ 6 เดือน ทำให้หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวเริ่มกลับมาน่าสนใจ ประกอบกับการเข้าสู่ช่วยหยุดท่องเที่ยววันชาติจีนในสัปดาห์นี้ คาดส่งผลบวกต่อ AOT, MINT, ERW ส่วน CENTEL น่าสนใจน้อยสุดเนื่องจากการปิดปรับปรุง 2 โรงแรมใหญ่ในกลุ่มที่เริ่มในช่วงครึ่งหลังปีนี้ คาดทำให้กำไรชะลอตัวลงในช่วง 4 ไตรมาส ข้างหน้า

ภาพรวมตลาดแกว่งตัวลงในกรอบ 1600-1650 จุด ยังเน้น selective buy ยังมองน้ำมันทรงตัวเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มใช้น้ำมัน EPG, DCC, BGC, BJC และโรงกลั่น SPRC, TOP, BCP, ESSO จากโมเมนตัมกำไรที่เป็นบวกตามค่าการกลั่นในช่วงครึ่งปีหลัง // กลุ่มโรงแรม MINT, ERW จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่คาดฟื้นตัว และการเข้าสู่ช่วงโกลเด้นวีค วันชาติสัปดาห์นี้  // กลุ่มปลอดภัย+ปันผลสูง LH, EASTW, INTUCH, JASIF รับไซเคิลอัตราดอกเบี้ยขาลง // เก็งกำไรรายตัว EPCO*, TEAMG*, VL*, AI*

ภาพรวมกลยุทธ์ การปรับตัวลงต่ำกว่า 1625 จุด ทำให้ดัชนีมีโอกาสลงทดสอบ 1600 จุด ซึ่งจะเป็นจุดเสี่ยงซื้อ เน้นหุ้นพื้นฐานดี และแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังเป็นบวก // หุ้นแนะนำวันนี้ MINT, EPG* / เก็งกำไร SSP* (เป้า 8.70, ตัดขาดทุน 7.70), TEAMG* (เป้า 2.50, ตัดขาดทุน 2.06)

แนวรับ 1608-1600 จุด / แนวต้าน : 1640-1650 สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

 

ประเด็นการลงทุน

"กกร." ลดจีดีพีปีนี้โตแค่ 2.7-3% ส่งออกทรงตัวถึง -2% หลังปัจจัยลบรุมเร้าทั้งเศรษฐกิจโลก Brexit บาทแข็ง แม้รัฐจะมีมาตรการกระตุ้นออกมาหลายเรื่องแต่ยังชดเชยไม่ได้ทั้งหมด

กทท.เตรียมยื่นอุทธรณ์ศาล ประมูลแหลมฉบัง - ประชุมด่วนพรุ่งนี้ หารืออุทธรณ์แหลมฉบังเฟส 3 ยืนยันต้องทำหน้าที่ของรัฐให้ถึงที่สุด เผยกำลังเตรียมข้อมูลยื่นอุทธรณ์ "เอ็นซีพี" แนะพิจารณาผลประโยชน์รัฐกรณีแข่งขัน 2 ราย

เป้าหุ้นไทยลดเหลือ 1677สมาคมนักวิเคราะห์เผยผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ ดัชนีสิ้นปี 2562 ปรับลดลงเหลือ 1677 จุด จาก 1755 จุด โดยมีสาเหตุจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก

 

ประเด็นติดตาม: 4 ต.ค.ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ/ 10-11 ต.ค.เจรจาการค้าจีน-สหรัฐฯ/ 15 ต.ค.กลุ่ม CP นัดเซ็นสัญญา High-speed Train

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)