ขุมพลัง ‘ชนชั้นกลางจีน’ ตลาดใหญ่-โตไม่หยุด

ขุมพลัง ‘ชนชั้นกลางจีน’ ตลาดใหญ่-โตไม่หยุด

ชนชั้นกลาง ถือเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคม บทวิเคราะห์จากแมคคินเซย์ชี้ ชนชั้นกลางจีนจะทะลุ 550 ล้านคนใน 3 ปี มากกว่าประชากรสหรัฐในวันนี้กว่า 1.5 เท่า ถือเป็นผู้บริโภคทรงพลังที่บริษัททั้งหลายมองข้ามไม่ได้ ทั้งบริษัทอเมริกันและจีนต่างกระหายหยิบชิ้

ถือเป็นผู้บริโภคทรงพลังที่บริษัททั้งหลายมองข้ามไม่ได้ ทั้งบริษัทอเมริกันและจีนต่างกระหายหยิบชิ้นปลามันจากตลาดชนชั้นกลางใหญ่สุดของโลกแห่งนี้

บางบริษัทหวังสร้างตัวละครใหม่ๆ ให้ผู้คนจดจำเหมือนกับที่เคยจดจำมิกกี้เมาส์ บ้างใช้วิธีเปิดคลาสสอนทำอาหาร ให้คนจีนรู้จักวิธีทำสเต็ก อีกหลายๆ บริษัทรู้ดีว่า พ่อแม่ชาวจีนทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อลูก ทั้งหมดนี้คือการเดิมพันกับชนชั้นกลางจีน

สำหรับเพิร์ลสตูดิโอ ที่มีฐานปฏิบัติการในเซี่ยงไฮ้ การเติบโตอย่างโดดเด่นของจีนในฐานะตลาดภาพยนตร์ใหญ่สุดของโลก หมายความว่าได้เวลาของภาพยนตร์แอนิเมชันธีมจีนแล้ว

เพิร์ลสตูดิโอ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีก่อนด้วยการร่วมทุนกับดรีมเวิร์คส แอนิเมชัน และกลุ่มธุรกิจนำโดยซีเอ็มซี แคปิตอล พาร์ตเนอร์ส

“เอเวอเรสต์ มนุษย์หิมะเพื่อนรัก” (Abominable) ภาพยนตร์เรื่องแรกของบริษัทนำเสนอเรื่องราวจีนยุคใหม่ ออกฉายในสหรัฐเมื่อวันที่ 27 ก.ย. และฉายในจีนวานนี้ (1 ต.ค.) ซึ่งเป็นวันแรกของวันหยุดยาว 1 สัปดาห์เพื่อเฉลิมฉลองวันชาติ

“เราเชื่อว่าตอนนี้จีนเป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่มีโอกาสสร้างบริษัทบันเทิงแบบครอบครัวระดับเวิลด์คลาส เร็วๆ นี้จีนจะมีมิกกี้เมาส์ของตนเอง เพราะอุตสาหกรมบันเทิงโดยรวมโตเร็ว ผู้บริโภคเติบโตขึ้นมาก” แฟรงค์ จู ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารเพิร์ลสตูดิโอ กล่าวกับซีเอ็นบีซีเมื่อเดือนก่อน

“Abominable” เป็นผลงานการผลิตร่วมระหว่างเพิร์ลกับดรีมเวิร์คส โดยยูนิเวอร์แซลพิคเจอร์สรับหน้าที่จัดจำหน่ายนอกประเทศ แอนิเมชันเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวกลุ่มวัยรุ่น ช่วยเหลือมนุษย์น้ำแข็งเดินทางทั่วประเทศจีนเพื่อให้ได้กลับบ้าน

ส่วนผลงานเรื่องถัดไปของเพิร์ล “Over the Moon”ซึ่งเป็นการนำตำนานของจีนมาบอกเล่าใหม่ จูกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า งานนี้ได้เกล็น คีแอน จากลิตเติ้ลเมอร์เมด มาทำหน้าที่กำกับ มิวสิคัลแอนิเมชันเรื่องนี้เตรียมออกฉายปีหน้าทั้งในโรงภาพยนตร์จีนและเน็ทฟลิกซ์

แม้การเติบโตของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนจะชลอตัว ไม่นับแรงกดดันทางเศรษฐกิจโดยรวม และความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐที่ยังดำเนินอยู่ต่อไป แต่ฤดูร้อนนี้รัฐบาลปักกิ่งเพิ่งประกาศนโยบายสนับสนุนการบริโภค เศรษฐกิจจีนวันนี้ถือว่า ผู้บริโภคเป็นโอกาสอันสำคัญและเป็นที่มาของการเติบโต

“การบริโภคโดยรวมแข็งแกร่ง คุณก็เห็นนี่ว่าอะไรเป็นตัวขับเคลื่อน ผู้บริโภคใหม่ๆ ขยับฐานะเป็นชนชั้นกลาง นี่คือแรงผลักดันหลักของการเติบโตในตลาดจีน” แดนเนียล ซิปเซอร์ หุ้นส่วนอาวุโสจากแมคคินเซย์กล่าว

ห้างค้าปลีกอย่างวอลมาร์ทก็เห็นโอกาสนี้ด้วย ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกจากสหรัฐเข้ามาในจีนกว่า 20 ปีแล้ว แต่ตอนนี้กำลังเพิ่มการลงทุน มีแผนสร้าง “แซมส์คลับ” ร้านค้าปลีกเฉพาะสมาชิกเพิ่มอีกอย่างน้อย 14 สาขา ภายในปี 2565 รวมแล้ว 40-45 สาขา

ส่วนร้านที่มีอยู่แล้วหลายแห่งกำลังปรับปรุงรูปโฉม เช่น ติดตั้งเคาน์เตอร์ทำเสต็ก หาเชฟมาประจำการโดยเฉพาะ สอนสมาชิกปรุงเสต็กด้วยเนื้อนำเข้าอย่างดี ใช้เครื่องปรุงและเครื่องครัวที่ทางร้านแนะนำ

แดนเนียล ชีห์ ประธานฝ่ายกิจการบรรษัทในจีนของวอลมาร์ท เผยกับซีเอ็นบีซีเมื่อวันก่อนว่า ในภาพรวมช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาวอลมาร์ททุ่มงบกว่า 400 ล้านหยวนปรับปรุงสาขาในจีน และใน 10 หรือ 20 ปีข้างหน้า วอลมาร์ทมีแผนลงทุนพัฒนาซัพพลายเชนอีก 8 หมื่นล้านหยวน

ตอนนี้แซมส์คลับใช้ศูนย์กระจายสินค้าจำนวนมาก ส่งสินค้าถึงสมาชิกกว่า 2.6 ล้านคนภายใน 1 ชั่วโมง ร้านวอลมาร์ทกว่า 290 สาขาก็จับมือเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์กับ ต้าต้า-เจดี เต้าเจีย เสนอบริการส่งสินค้าภายใน 1 ชั่วโมง

ชีห์กล่าวด้วยว่า ปัจจัยสำคัญอีกตัวหนึ่งในการเติบโตของวอลมาร์ท โดยเฉพาะแซมส์คลับอยู่ที่คุณภาพสินค้า กลุ่มเพื่อนและอินฟลูเอ็นเซอร์ในโซเชียลมีเดียมีบทบาทสำคัญในการดันยอดขาย (ไตรมาล่าสุด แซมส์คลับในจีนทำยอดขายเติบโตระดับเลขสองหลักเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน)

จุดเด่นของแซมส์คลับแดนมังกรอยู่ที่นำเสนอสินค้าแบรนด์ต่างประเทศหลากหลายชนิด ที่เป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวชาวจีน รวมถึงผลิตภัณฑ์ในประเทศ “อินเฮาส์แบรนด์” ที่คัดสรรแล้ว สินค้ายอดนิยม เช่น เลเยอร์เค้กทุเรียน สร้างสรรค์โดยพนักงานจีน

โอกาสความสำเร็จที่กำลังมาแรงในจีนตอนนี้อยู่ที่แบรนด์จีน สัปดาห์ก่อน ไนกี้รายงานว่ายอดขายในจีนดีมาก แต่ Fenqile เว็บไซต์ผ่อนสินค้าออนไลน์ รายงานว่า ยอดขาย “ฮุ่ยหลี” แบรนด์รองเท้ากีฬาจีนแซงหน้าไนกี้และอาดิดาสไปมาก

ยอดขายแบรนด์แฟชั่นและผลิตภัณฑ์ความงามของจีนเองก็เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าในเดือน ส.ค. แต่ยังไม่มีข้อมูลเปรียบเทียบกับแบรนด์อื่น

แบรนด์จีนหลายรายโด่งดังขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว เช่น เพอร์เฟ็คไดอะรี บริษัทเครื่องสำอางที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อ 2 ปีก่อน บนทีมอลล์แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของอาลีบาบา

สตาร์ทอัพรายนี้พุ่งเป้าลูกค้าที่เกิดช่วงกลางทศวรรษ 90 เป็นต้นมา แล้วทำการตลาดด้วยการนำนักร้องดังของจีนมาโฆษณา

เพอร์เฟ็คไดอะรี เผยว่า ตนเป็นแบรนด์เครื่องสำอางรายแรก ที่ทำยอดขายเกิน 100 ล้านหยวนในวันคนโสด 11 พ.ย.2561 ตอนนี้บริษัทเปิดร้านจริงหลายสาขาแล้ว โดยมีแผนขยายสาขาอีก 4 เท่าให้ได้ 40 สาขาภายในสิ้นปีนี้ และ 600 สาขาใน 3 ปี

หากจะสรุปวิธีการที่บริษัทใหญ่มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์นอกเหนือจากแอ๊ปเปิ้ลและสตาร์บัคส์ ใช้จับตลาดผู้บริโภคจีนมีมากมาย อาทิ ยัม ไชน่า บริษัทแม่ของเคเอฟซี ใช้วิธีลงทุนหนักในตลาดกาแฟที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว กลายเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่อันดับสอง ยอดขายกว่า 90 ล้านแก้ว

ด้านอ้ายฉีอี้ เว็บไซต์วีดิโอสตรีมมิง หรือเน็ทฟลิกซ์จีน กล่าวว่า ความสำเร็จของบริษัทมาจากการมีเนื้อหาผลิตเองที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโชว์หรือละครโทรทัศน์ เมื่อเดือน มิ.ย. บริษัทเป็นแพลตฟอร์มวีดิโอออนไลน์เจ้าแรก ที่ดึงดูดสมาชิกกว่า 100 ล้านคนได้จากประเทศเดียว เทียบกับเน็ทฟลิกซ์ เมื่อสิ้นเดือน มิ.ย.มีลูกค้าเสียค่าสมาชิกในสหรัฐราว 60 ล้านคน จากสมาชิกทั่วโลก 151.6 ล้านคน