ยธ.เทงบฯ 176 ล้าน จ่ายเยียวยาเหยื่ออาชญากรรม

ยธ.เทงบฯ 176 ล้าน จ่ายเยียวยาเหยื่ออาชญากรรม

"สมศักดิ์" เร่งจ่ายเยียวยาผู้เสียหายในคดีอาญา 217 ราย โวปี 63 รัฐอัดฉีดเพิ่ม 450 ล้านบาท ไม่พอของบกลางจ่ายเพิ่มได้อีก ด้าน "มึนอ" จูงแม่บิลลี่ รับเงินเยียวยา 1.4 แสนบาท เก็บเป็นทุนการศึกษาลูก ส่วนเงินประกันชีวิตจะนำไปซ่อมบ้าน

เมื่อวันที่ 30 ก.ย.62 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดโครงการคุ้มครองสิทธิ : เพื่อสร้างวิถีชีวิตแห่งความเท่าเทียม พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา 12 จังหวัด รวมถึงกรณีของนายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ รวมจำนวน 217 ราย เป็นเงิน 13,455,584 บาท

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กรมคุ้มครองสิทธิฯ ได้รับการจัดสรรงบประมาณปี 62 เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญาตามพ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย ค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา จำนวน 300 ล้านบาท แต่ผู้เสียหายและจำเลยมีเป็นจำนวนมาก ทำให้การเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาหมดลงตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค. โดยมียอดค้างจ่ายถึง 3,325 ราย ตนจึงได้สั่งการให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพขอรับการจัดสรรงบกลางจนได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 ก.ย. จํานวน 176,788,000 บาท และได้ทยอยมอบให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยจนวันนี้เป็นวันสุดท้ายของปีงบประมาณก็ได้ใช้จ่ายงบที่ได้รับมาทั้งหมดเกือบ 500 ล้านบาท เพื่อมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในปีงบประมาณ 63 นี้ กรมคุ้มครองสิทธิ์ฯ ได้รับงบประมาณสำหรับจ่ายเยียวยาให้ผู้เสียหายและเหยื่อในคดีอาญา 450 ล้านบาท โดยเพิ่มเติมจากปีงบประมาณ 62 จำนวน 150 ล้านบาท หากไม่เพียงพอสามารถของบกลางมาจ่ายเพิ่มเติมได้ และเมื่อรวมกับงบประมาณของกองทุนยุติธรรมจะมีเงินช่วยเหลือประมาณ 800 ล้านบาทต่อปี เพื่อให้เพียงพอและเยียวยาผู้เสียหายได้ทันท่วงที ทั้งนี้ การจ่ายเงินเยียวยาวันนี้ตนได้แจ้งทุกจังหวัดให้เชิญส.ส.ทุกพรรคร่วมเป็นสักขีพยานในการจ่ายเงินเยียวยาว่าจ่ายครบถ้วนหรือไม่ และเพื่อให้ส.ส.ช่วยกันประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนที่ตกเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาให้ทราบถึงสิทธิ์ตามกฎหมาย ส่วนกรณีการเสียชีวิตของบิลลี่ได้พูดคุยกับภรรยาและแม่ของผู้ตายให้อดใจรอผลการสอบสวน ซึ่งจะแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน หากเร่งรัดอาจทำให้สำนวนคดีไม่รัดกุม

น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยานายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ กล่าวว่า จะนำเงินที่ได้ในวันนี้จะนำไปเป็นทุนการศึกษาให้กับลูก 4 คน ส่วนเงินประกันชีวิตของนายบิลลี่ที่ทำไว้เมื่อปี 2556 ก่อนนายบิลลี่จะหายตัวไปแค่ปีเดียว เมื่อได้รับแล้วจะนำไปใช้เป็นค่าซ่อมบ้าน เพราะบ้านที่อยู่ปัจจุบันทรุดโทรมมากจนใกล้พัง สำหรับตนหลังนายบิลลี่หายตัวไปก็ทำไร่ทำสวนเลี้ยงลูก ยอมรับว่าอยู่ในพื้นที่แม้จะได้รับการคุ้มครองพยาน แต่ก็ยังมีความกังวล และสิ่งที่กลัวที่สุดคือกลัวคู่กรณีใช้อิทธิพลแทรกแซงคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้เสียหาย และจำเลยในคดีอาญาที่เดินทางมารับเงินในวันนี้ มีกรณีที่ประชาชนให้ความสนใจ เช่น กรณีนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ ซึ่งดีเอสไอได้ร่วมกับหลายหน่วยงานตรวจหาพยานหลักฐานจนพบชิ้นส่วนกระดูก และพบสารพันธุกรรมตรงกับนางไพเราะจี รักจงเจริญ มารดาของผู้ตาย ซึ่งดีเอสไอเห็นว่าพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายที่กระทำความผิดครั้งนี้เข้าข่ายเป็นการฆาตกรรมโดยทรมานและบังคับบุคคลให้สาบสูญที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง กรมคุ้มครองสิทธิ์ฯ จึงช่วยเหลือเยียวยาค่าตอบแทนกรณีถึงแก่ความตาย 80,000 บาท ค่าจัดการศพ 20,000 บาท และค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู 40,000 บาท รวมทั้งสิ้น 140,000 บาท

กรณีด.ช.พชรพล พิสสา ถูกพี่เลี้ยงทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส ก้านสมองตาย และเสียชีวิต ได้รับค่าตอบแทนกรณีถึงแก่ความตาย 8 หมื่นบาท ค่าจัดการศพ 2 หมื่นบาท และค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู 4 หมื่นบาท รวมเป็นเงิน 140,000 บาท และกรณีน.ส.ธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ หรือไฮโซเชอร์รี่ ซึ่งถูกนายอัศยา ชัยภา หรือโก้ ใช้ไม้เบสบอลตีทำร้ายจนถึงแก่ความตาย และหลบหนีไป ได้รับค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ 1,300 บาท ค่าตอบแทนกรณีถึงแก่ความตาย 5 หมื่นบาท ค่าจัดการศพ 2 หมื่นบาท และค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู 4 หมื่นบาท รวมเป็นเงิน 111,300 บาท