นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาทบทวนประเภทธุรกิจตามบัญชีท้าย พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 มีมติเสนอคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวปลดล็อก 4 ธุรกิจออกจากบัญชีท้าย ได้แก่
1.ธุรกิจบริการโทรคมนาคม สำหรับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม แบบที่ 1 (ไม่มีโครงข่าย)
2.ธุรกิจศูนย์บริหารเงิน
3.ธุรกิจบริการซ่อมบำรุงอากาศยาน (เอ็มอาร์โอ) ที่ได้รับใบรับรองหน่วยซ่อมประเภท 2 สำหรับบำรุงรักษาส่วนประกอบสำคัญของอากาศยาน และประเภท 3 สำหรับบำรุงรักษาบริภัณฑ์และชิ้นส่วนของอากาศยานตามกฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศ
4.ธุรกิจบริการพัฒนาซอฟต์แวร์
“ทั้ง 4 ธุรกิจที่เตรียมถอดออกนั้น เป็นธุรกิจที่มีกฎหมายเฉพาะกำกับอยู่แล้ว จึงเป็นการลดความซ้ำซ้อนในการกำกับดูแลของภาครัฐ ช่วยให้นักลงทุนต่างชาติลดภาระค่าใช้จ่าย ระยะเวลา และความยุ่งยากในการขออนุญาตจากภาครัฐ"
ทั้งนี้ จะทำให้เกิดความคล่องตัวในการประกอบธุรกิจ ลดอุปสรรคด้านการลงทุน สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการประกอบธุรกิจ และดึงดูดเม็ดลงทุนเข้ามาในประเทศมากขึ้น
นายพูนพงษ์ กล่าวว่า ทั้ง 4 ธุรกิจ เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งคนไทยมีความพร้อมในการแข่งขันการประกอบธุรกิจกับคนต่างชาติ อีกทั้งการเปิดเสรีในธุรกิจดังกล่าวจะดึงดูดให้บริษัทต่างชาติเข้ามาตั้งศูนย์การพัฒนาและซ่อมบำรุงในไทยเพิ่มมากขึ้น
รวมทั้งเป็นประโยชน์ในการพัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีให้แก่คนไทย ส่งเสริมให้เกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งจะสามารถยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในระดับสากล
