‘จีน’ ซัด กีดกันการค้าภัยคุกคาม ศก.โลก

‘จีน’ ซัด กีดกันการค้าภัยคุกคาม ศก.โลก

รมว.ต่างประเทศ เรียกร้องประชาคมโลก เห็นความไม่เป็นธรรมจากกีดกันการค้า-ข่มขู่ตั้งกำแพงภาษี เป็นบ่อนทะลายระเบียบการค้าพหุภาคี ฉุดเศรษฐกิจโลกถดถอย

นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐ และรัฐมนตรีต่างประเทศจีน กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) ครั้งที่74 ที่นครนิวยอร์ก ในวานนี้ (27 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ ว่า  ตลอดระยะเวลา1 ปีครึ่งที่มีการตั้งกำแพงภาษีและข่มขู่ทางการค้า ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อห่วงโซ่อุปทาน ยังบ่อนทำลายระเบียบการค้าโลกแบบพหุภาคี และหากสถานการณ์ยังคงยืดเยื้อเช่นนี้ต่อไป จะทำให้เศรษฐกิจโลกอาจต้องประสบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่

"การก่อกำแพงภาษีไม่ใช่หนทางแก้ไข แต่กลับสร้างความท้าทาย หรือการกล่าวโทษคนอื่นต่อปัญหาที่ตนเองเป็นผู้สร้างขึ้น ก็เป็นเรื่องไม่สมควรเช่นกัน นี่จะเป็นอีกหนึ่งบทเรียนจากวิกฤติเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ที่จะต้องเรียนรู้จากบทเรียนที่ผ่านมา" รมว. หวัง อี้ กล่าว

นายหวัง กล่าวอีกว่า ในวันที่ 1 ต.ค. วันชาติจีน โอกาสวาระครบรอบ 70 ปีแห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจีนได้ก้าวข้ามผ่านหลายเหตุการณ์และนำพาเศรษฐกิจประเทศให้ฟื้นคืนความมั่งคั่งได้ แต่เมื่อหากย้อนกลับ จีนเคยประสบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ สภาพสังคมที่ทรุดโทรม และประชาชนต้องอดอยาก ขณะที่สถาบันการปกครองขาดเสถียรภาพ แต่จีนต้องลุกขึ้นมาปฏิรูปและพัฒนาตามแบบของตัวเอง เพื่อทำให้จีนเป็นจีนได้ถึงทุกวันนี้ และยืนยันว่า จะไม่มีวันยอมคุกเข่าให้ใคร