ทลายแก๊งหัวลำโพง ล่อลวงบังคับเด็กค้าประเวณี

ทลายแก๊งหัวลำโพง ล่อลวงบังคับเด็กค้าประเวณี

ตำรวจ ปคม.รวบแก๊งหัวลำโพง ล่อลวงบังคับเด็กค้าประเวณี ชิงทรัพย์ ส่งยาเสพติด หากขัดขืนจะถูกมีดกรีดแขน ทำร้ายร่างกายและบังคับข่มขืน

พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นคร บัญชาผู้บังคับการปราบปรามการค้มนุษย์ พร้อมชุดสืบสวน แถลงผลปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น ทลายเครือข่ายขบวนการค้ามนุษย์ ล่อลวง บังคับค้าประเวณีเด็ก แก๊งหัวลำโพง ว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก ช่วงเช้ามืดของวันนี้ (28ก.ย.) เจ้าหน้าตำรวจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ สนธิกำลังหน่วยคอมมาโด ตำรวจรถไฟ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหมายจับและหมายค้นเข้าตรวจในโรงแรม ห้องพัก ย่านหัวลำโพง รวม 6 จุด สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 7 คน คือ1.นายวสันต์ หรือไอซ์ แซ่เตีย 2.นายทะนงศักดิ์ หรือหิน สุริโยทัย 3.นายโต้ง ไม่ทราบนามสกุล 4.นายนรินทร หรืออี๊ด รอบรู้ 5.นายวายุ หรือเติล ภาษี 6.นายสิทธิชัย หรือเคิล เอกตาแสง และ7. นายวิษณุ หรือเต้ย มณฑา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในข้อหาสมคบกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์

พล.ต.ต.วรวัฒน์กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ได้รับการประสานจากภาคประชาชนเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่า มีขบวนการค้าประเวณีเด็กหญิงและชาย โดยใช้กลอุบายล่อลวงมาค้าบริการทางเพศ โดยเลือกเหยื่อที่มีปัญหาครอบครัว หนีออกจากบ้าน เป็นเด็กเร่ร่อน ใช้กลอุบายให้เข้ามารวมกลุ่ม หลักจากนั้น บังคับให้ค้าประเวณีกับลูกค้าทั้งหญิงและชาย มีค่าบริการตกครั้งละ 300-500 บาท แบ่งให้เด็ก 100-200 บาท หากเด็กไม่ทำตาม จะถูกทำร้ายร่างกาย จุดไฟรนหรือใช้มีดกรีดแขนเป็นบาดแผล ซึ่งมีเด็กเร่ร่อนอายุตั้งแต่ 10-16 ปี ตกเป็นเหยื่อร่วม 14 ราย เด็กชาย 12 ราย เด็กหญิง 2 ราย

 

นอกจากนี้ยังพบว่า มีการบังคับเด็กเสพยาเสพติด รวมทั้งกระทำชำเราก่อนจะส่งให้ไปใช้บริการกับลูกค้าคนอื่นด้วย อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้สืบสวนจนทราบเบาะแสว่า แก๊งค้ามนุษย์กลุ่มนี้มีนายนรินทร์ หรืออี๊ด เป็นหัวหน้าแก๊ง โดยใช้โรงแรมในย่านสถานีรถไฟหัวลำโพงเป็นสถานที่ค้าประเวณี ซึ่งมีลูกค้าหลายกลุ่ม โดยส่วนมากจะเป็นสาวประเภทสอง

พล.ต.ต.วรวัฒน์กล่าวต่อมา ตำรวจได้วางแผนจับกุมนายปริญญา รื่นพิทักษ์ เป็นนายหน้าจัดหา และขอศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาที่รวม 13 ราย ก่อนเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น 6 จุด จับกุมผู้ต้องหาชุดล่าสุดได้ 7 ราย และมีผู้สงสัยในคดีเป็นหญิง 5 คน พร้อมยึดหลักฐานโทรศัพท์มือถือ สมุดบัญชีมาขยายผลตรวจสอบ ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่าทำมาไม่ต่ำกว่า 4 เดือน นอกจากนี้เมื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรรมยังพบว่า ผู้ต้องหาหลายรายเคยต้องโทษคดีเสพยาเสพติดและคดีชิงทรัพย์มาแล้ว โดยยังอยู่ระหว่างสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนส่งข้อมูลให้ตำรวจปราบปรามยาเสพติดดำเนินการ

เบื้องต้นแจ้งข้อหาตามหมายจับก่อนคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ดำเนินคดี ขณะที่กระทรวงพัฒนาสังคมและมนุษย์(พม.) ก็จะนำตัวเด็กไปสอบถามร่วมกับสหวิชาชีพ เพื่อคัดกรองเหยื่อค้ามนุษย์ ก่อนรับตัวไปเยียวยาภายใต้การดูแลของนักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์ตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้หากพบเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับเด็ก สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300