ลุ้นรีบาวด์แนวรับ

ลุ้นรีบาวด์แนวรับ

ดัชนีวานนี้ปิดปรับตัวขึ้นแต่ปริมาณขายยังคงเบาบาง โดยดัชนีปรับตัวขึ้นคล้ายกับตลาดหุ้นภูมิภาค ขานรับความหวังข้อตกลงการค้าสหรัฐ-จีน

นอกจากนี้ ตลาดยังกลับเข้ามาซื้อในหุ้นที่ปรับตัวร่วงลงมาแรงก่อนหน้านี้ อาทิ กลุ่ม ICT และ HELTH ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,636.75 จุด (+8.37 จุด) Volume 4.7 หมื่นลบ. ต่างชาติซื้อ 318 ลบ. TFEX Net -2,392 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +1,077 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+วุฒิสภาสหรัฐอนุมัติร่างกฏหมายงบประมาณชั่วคราวเมื่อคืนนี้ซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) ไปจนถึง 21 พ.ย.

+จีนสั่งซื้อถั่วเหลือ 6 แสนตันจากสหรัฐนับเป็นจำนวนมากที่สุดตั้งแต่จีนปรับเพิ่มภาษีที่เรียกเก็บจากถั่วเหลืองนำเข้าจากสหรัฐสู่ระดับ 25%

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 79.59 จุด -0.30% จากกังวลการเมืองในสหรัฐ หลังมีการแจ้งว่าทรัมป์ใช้อำนาจในทางมิชอบเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือ และแรงกดดันจากรายงาน GDP Q2/62 ชะลอตัวสู่ 2% จาก 3.1% ใน Q1/62 และ 2.6% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

-/+ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. -8 เซนต์ -0.1% ปิด 56.41 ดอลลาร์/บาร์เรล จากรายงานว่าการผลิตน้ำมันในซาอุดีอาระเบียฟื้นตัวรวดเร็วกว่าที่คาด แต่ราคาน้ำมันดิบ WTI ขยับลงเล็กน้อย และราคาน้ำมันดิบ Brent ดีดขึ้นปิดบวก หลังมีรายงานว่าสหรัฐเตรียมส่งทหารและยุทโธปกรณ์ด้านกลาโหมเข้าไปประจำการในซาอุดีอาระเบีย

-จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นแตะ 213,000 รายสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 212,000 ราย

-China Beige Book บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนใน Q3/62 ขยายตัวต่ำสุดในปีนี้ จากการผลิตซบเซา ขณะที่ตัวเลขการก่อหนี้พุ่งขึ้น

-ก.คลังเตรียมปรับลดประมาณการ GDP ปี 62 ใหม่จากความเสียหายของสถานการณ์น้ำท่วม ศก.โลกชะลอตัว และส่งออก 8 เดือนติดลบ 2.2%

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD -2.3 พันลบ. ค่าเงินบาท 30.64 บาท/US

*จับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) การใช้จ่ายส่วนบุคคล และความเชื่อมั่นผู้บริโภค

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีอาจอ่อนตัวในช่วงเปิดตลาด แต่คาดว่าจะมีแรงรีบาวด์กลับเนื่องจากดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงมามากกว่าตลาดในภูมิภาคตั้งแต่สัปดาห์ก่อน อีกทั้งในทางเทคนิคสามารถสร้างฐานได้ติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ช่วยหนุนการรีบาวด์ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,630-1,645 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

JUBILE ซื้อ ราคาเหมาะสม 23.00 บาท

  • ปรับเพิ่มประมาณการณ์กำไรปี 62 จาก 204 ลบ.สู่ 222 ลบ. เพิ่มขึ้น 9% หลังรายงานกำไร 1H62 อยู่ที่ 119 ลบ. เติบโต 26%YoY เนื่องจากบริษัทมีการใช้ข้อมูล Big data เข้ามาวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคเพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า อีกทั้งมีงานที่ยังไม่ส่งมอบจากงาน Mid-year sales อีก 30 ลบ.ที่จะรับรู้ใน 3Q62 ช่วยหนุนผลประกอบการเพิ่มเติม
  • ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การเติบโตจากเน้นขยายสาขาสู่เน้นเพิ่มยอดขายต่อสาขา หลังใช้ Big data เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า บริษัทจึงเปลี่ยนกลยุทธ์ โดยปรับลดเป้าการเปิดสาขาจาก 5-8 สาขาในปีนี้เหลือ 1-2 สาขา
  • คงคำแนะนำ “ซื้อที่ราคาเหมาะสม 00 บาท โดยอิง Prospective P/E ที่ระดับ 18 เท่า(+1.0S.D.ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี) เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 16 เท่า เพื่อให้สะท้อนถึงการกลับมาเติบโต และคาดหวังอัตราเงินปันผล 4.5 %ต่อปี

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Defensive Stock (Beta <1 yield >5%) กลุ่มการเงิน THREL TISCO KKPกลุ่มอสังหาฯ QH SPALI SPF DCC กลุ่มอาหารและค้าปลีก RSP TVO TWPC กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน BTSGIF DIF          กลุ่มจัดงานอีเวนท์ GPI)
  • หุ้น Domestic Play (ADVANC AMATA EKH SISB HMPRO)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว “ชิมช้อปใช้ (SPA ASAP ERW TNP)

หุ้นมีข่าว   

ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ หรือ TFFIF เฟส 2 ส่อเลื่อนยาวไม่ต่ำกว่า 6 เดือน คลังเร่งปตท.และรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่เบิกจ่ายงบลงทุนช่วง 3 เดือนสุดท้าย ไม่น้อยกว่า 2.88 แสนล้านบาท ย้ำยังไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม แม้ธปท.หั่นจีดีพีเหลือ 2.8% พร้อมยืดค่าน้ำ-ไฟฟรีอีก 1 ปี (ที่มา ข่าวหุ้น)

PSTC เผย"บิ๊กแก๊ส" จะขายหุ้น 43% ใน TPN ให้ EGCO มูลค่า 2.9 พันลบ. นำเงินลงทุนโครงการมในอนาคต-เสริมสภาพคล่อง (ที่มา อินโฟเควสท์)

ความเห็น PSTC อาจมีการบันทึกกำไรพิเศษ 2-3 พันล้านบาทหรือส่งผลบวกต่อราคาหุ้น 0.2-0.3 บาทต่อหุ้น ซึ่งถือเป็นกำไรพิเศษครั้งเดียวที่จะเข้ามาหนุนผลประกอบการปี 62 อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าเงินดังกล่าวจะต้องนำไปเป็นเงินทุนในการขยายการลงทุนทั้งในส่วนของ TPN การขยายตลาด LNG และการขยายการลงทุนด้านโรงไฟฟ้า

(+) EGCO (Bloomberg Consensus 338.79 บาท) ประกาศข่าวดี! โรงไฟฟ้าซานบัวนาเวนทูรา ขนาด 455 เมกะวัตต์ ในฟิลิปปินส์ จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว เตรียมรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SENA (Bloomberg Consensus 4.51 บาท) ย้ำเป้ายอดขายปีนี้ 10,000 ล้านบาท หลังล่าสุดทำได้แล้ว 6,000 ล้านบาท เล็งเปิด 4 โครงการมูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท ในไตรมาส 4/62 และขน 20 โครงการพร้อมอยู่จัดแคมเปญใหญ่ “MADE FROM HER DAY พาเธอมาเจอดีลดีคาดกวาดยอดขายโค้งสุดท้าย 4,000-5,000 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SPCG (Bloomberg Consensus 18.7 บาท) เล็งปิดดีลพันธมิตรลงทุนโรงไฟฟ้าในญี่ปุ่น กำลังการผลิต 480 MW ในเดือนตุลาคมนี้ จ่อเปิดตัวโมเดลธุรกิจใหม่ ปล่อยสินเชื่อขายโซลาร์รูฟท็อป ไตรมาส 4/2562 ทั้งปีคงเป้ารายได้ชน 7 พันล้านบาท ล่าสุด GULF INTERNATIONAL INVESTMENT (HONG KONG) LIMITED เข้าซื้อหุ้น SPCG เพิ่มเป็น 10.0761%  (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TMILL (ราคาเหมาะสม 3.36 บาท) รับอานิสงส์มาตรการ "ชิม ช้อป ใช้" และเทศกาลกินเจ หนุนปริมาณขายในไตรมาส 4/62 พุ่งขึ้น เชื่อทำสถิติสูงสุดรอบปี บวกกับไฮซีซันธุรกิจหนุนความต้องการบริโภคแป้งสาลีขยายตัว แย้มอยู่ระหว่างเจรจารายใหญ่ต่อสัญญาออเดอร์ล่วงหน้า พร้อมเดินหน้าเจาะฐานลูกค้าต่างจังหวัดต่อเนื่อง

(+) DRT (Bloomberg Consensus 7.00 บาท) เผยจ่อรับอานิสงส์งานซ่อม-สร้างบ้านภายหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วม หนุนออเดอร์เพิ่ม พร้อมคอนเฟิร์มรายได้ปี 2562 โต 5% ตามเป้า แถมยังมีโปรดักต์ใหม่ต่อยอด ส่งสัญญาณไตรมาส 3/2562 โชว์ฟอร์มดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน จากดีมานด์ขยายตัว (ที่มา ทันหุ้น)