กรมพัฒน์ฯ ผุด 4 มาตรการ ช่วยธุรกิจ 4 จังหวัดภาคอีสาน

กรมพัฒน์ฯ ผุด 4 มาตรการ ช่วยธุรกิจ 4 จังหวัดภาคอีสาน

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ออกมาตรการผ่อนผันการทำธุรกรรมนิติบุคคล แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม 4 จังหวัด ภาคอีสาน จากผลกระทบน้ำท่วม

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยพิบัติน้ำท่วมเฉียบพลันในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าในฐานะหน่วยงานภาครัฐ ที่ให้บริการจดทะเบียนนิติบุคคลและส่งเสริมธุรกิจให้มีความเข้มแข็ง ออก 4 มาตรการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยเพื่อช่วยเยียวยาธุรกิจในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ยโสธร ร้อยเอ็ด และศรีษะเกษ ที่ได้รับผลกระทบตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน-31 ตุลาคม 2562 ดังนี้

1) จัดตั้งศูนย์บริการรับจดทะเบียนให้กับนิติบุคคลที่มีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ณ ส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลาง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบธุรกิจที่ต้องการยื่นขอจดทะเบียนแต่ไม่สามารถเดินทางไปยัง 4 จังหวัดที่ประสบภัยพิบัติได้

2) ขยายระยะเวลาการยื่นจดทะเบียน และการนำส่งสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น สำหรับนิติบุคคลในพื้นที่ ที่ประสบภัยและจะครบกำหนดการดำเนินการดังกล่าวระหว่างวันที่ 1 กันยายน – 31 ตุลาคม 2562 ทั้งนี้ เมื่อเหตุภัยพิบัติสิ้นสุดลงนิติบุคคลสามารถยื่นหนังสือขอขยายเวลาต่อนายทะเบียนในจังหวัดที่รับผิดชอบได้ภายใน 15 วัน

3) ขยายระยะเวลาการยื่นงบการเงินออกไปอีก 1 เดือนให้กับนิติบุคคลที่ไม่สามารถยื่นได้ทันตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงนิติบุคคลที่มีกระบวนการจัดทำงบการเงินอยู่ในช่วงภัยพิบัติ โดยจะต้องเป็นนิติบุคคลที่มีวันสิ้นสุดการส่งงบการเงินภายในวันที่ 30 ก.ย.2562, 31 ต.ค.2562, 30 พ.ย.2562, 31 ธ.ค.2562, 31 ม.ค.2563,29 ก.พ.2563 และ 31 มี.ค.2563

4) ผ่อนผันการแจ้งบัญชีและเอกสารประกอบการลงบัญชีสูญหายหรือเสียหายที่ต้องแจ้งต่อสารวัตรบัญชีออกไปอีก 15 วัน นับตั้งแต่เหตุภัยพิบัติสิ้นสุดลง โดยสามารถยื่นล่าช้าและใช้เป็นหลักฐานกรณีถูกเรียกตรวจบัญชีได้ทั้งนี้ ธุรกิจสามารถแจ้งบัญชีและเอกสารที่ใช้ประกอบการลงบัญชีสูญหายหรือเสียหายผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ได้ทางเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th เลือกบริการออนไลน์ และงานการอนุญาต (e-Permit)

ด้านข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2562 การจดทะเบียนธุรกิจใน 4 จังหวัดที่ประสบภัยพิบัติดังกล่าว พบว่า มีจำนวนนิติบุคคลคงอยู่ทั้งสิ้น 11,374 ราย แบ่งเป็น อุบลราชธานี 4,896 ราย, ยโสธร 1,339 ราย, ร้อยเอ็ด 2,859 ราย และศรีสะเกษ 2,280 ราย ทั้งนี้ นิติบุคคลส่วนใหญ่ที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยประกอบธุรกิจประเภท “การก่อสร้างอาคารทั่วไป” มากที่สุด จำนวน 2,902 ราย หากรวมทุนจดทะเบียนเฉพาะธุรกิจประเภทนี้แล้ว มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 14,764.63 ล้านบาท