'บิณฑ์' เผยล่าสุดยอดบริจาคอยู่ที่ 408 ล้านบาท

'บิณฑ์' เผยล่าสุดยอดบริจาคอยู่ที่ 408 ล้านบาท

"บิณฑ์" แถลงข่าวครั้งแรกเผยล่าสุดยอดบริจาคอยู่ที่ 408 ล้านบาท เตรียมปิดบัญชี 30 ก.ย.นี้

เมื่อวันที่ 25 ก.ย.62 นายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ นายเอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ 2 ดารานักแสดง ผู้กำกับชื่อดัง พร้อมด้วยนางรัตนา สมสกุลรุ่งเรือง ประธานมูลนิธิร่วมกตัญญู นายปิยะรัตน์ ถิ่นแก้ว ผู้จัดการประสานงานมูลนิธิ นายสุวิชา มุละสิวะ ผู้บริหารโรงแรมวิจิรตพร ร่วมกันแถลงข่าว ชี้แจงรายละเอียดสรุปรายการบัญชีและการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่จังหวีดอุบลราชธานี ที่อาหารสัมมนาโรงแรมวิจิตรพร ถนนวารินชำราบ – ศรีสะเกษ ตำบล หนองกินเพล อำเภอวารินชำราบ อุบลราชธานี

นายบิณฑ์ เปิดเผยถึงโครงการดังกล่าวว่าหลังจากที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และได้นำเงินสดส่วนตัวมอบให้ผู้ประสบภัยที่เหมือนสิ้นเนื้อประดาตัวจากอุทกภัย ทำให้ได้เห็นถึงแววตาที่ดีใจมีความหวัง นายบิณฑ์จึงได้ตัดสินใจนำเงินส่วนตัว 1 ล้านบาท มามอบให้ผู้ที่ประสบอุทกภัยที่เดือดร้อน หลังจากนั้นแฟนคลับก็ร่วมสมทบด้วยจนมากมายมหาศาล

ล่าสุด วันนี้ เวลา 09.30 น. อยู่ที่ 408,508,986 บาท ยอดบริจาคที่ได้รับจากประชาชนทั่วไปไม่ผ่านบัญชี 1,748,441 บาท เบิกถอนมาแล้วทั้งหมด 46,000,000 บาท ยอดรวมรายการช่วยเหลือไปแล้ว 41,181,000 บาท เหลือยังที่ไม่ได้ส่งมอบ 4,819,000 บาท ยอดให้การช่วยเหลือไปแล้วตั้งแต่วันที่ 16-24 กันยายน 62 รวม 7,893 ครัวเรือน ผู้ป่วยติดเตียง / พิการทุพลภาพ 293 ราย และวันนี้มีภารกิจที่จะต้องไปมอบอีก 800 หลังคาเรือนในช่วงบ่าย

ทั้งหมดนี้ ไม่มีเพียงแต่พี่น้องประชาชนชาวไทย องค์กรต่างทั้งวงการบันเทิง มูลนิธิ พระสงฆ์ และอื่นอีกมากมายที่ไม่อาจจะเอ่ยได้หมดซึ่งก็ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การเชื่อใจสนับสนุนในการช่วยเหลือครั้งนี้ ขอสัญญาว่าเงิน 400 กว่าล้านนี้จะต้องทั่วถึงผู้ประสบภัยทุกจังหวัด ทุกครัวเรือนจะต้องไม่ตกหล่น ต้องได้รับความเป็นธรรม โปร่งใสที่สุด ทั้งนี้จะมีการปิดการรับบริจาคเงินช่วยเหลือในวันที่ 30 ก.ย.62 ที่จะถึงนี้

ด้านนายปิยะรัตน์ ผู้ประสานงานดำเนินการกล่าวว่าในการลงพื้นที่ช่วยเหลือครั้งนี้อันดับแรกต้องอ้างอิงจากข้อมูลพื้นฐานจากภาครัฐ ประกอบกับทีมปฏิบัติลงพื้นที่ข้อมูลจากสื่อมวลชนที่แจ้งเข้ามา นำเอามาประกอบกัน ทำให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนในการช่วยเหลือผู้ประภัยได้มากที่สุดและทั่วถึง ปัจจุบันมีพื้นที่ประสบภัยหลักๆ 8 อำเภอ ทางคณะได้ทำงานร่วมกันกับภาครัฐ นายอำเภอเพื่อจะได้ประสานงานผู้นำชุมชนในพื้นที่ เพื่อให้ผู้นำคัดกรองและยืนยันการช่วยเหลือให้เป็นธรรมโดยเสียงของคนส่วนใหญ่เป็นมติในการช่วยเหลือ

สำหรับการช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นการช่วยเหลือให้กำลังใจในระดับครัวเรือน ไม่ได้เป็นเงินเยียวยาพื้นที่ทำกิน โครงสร้างครัวเรือน หรือสถานที่ประกอบธุรกิจ เราเน้นในตัวระดับบุคคล ล่าสุดเข้าถึงแล้วไม่น้อยกว่า 95 เปอร์เซ็นต์