BH - ถือ

BH - ถือ

ประมาณการ 3Q62: ยังคงมองลบกับแนวโน้มผลประกอบการ

Event

ประมาณการ 3Q62

lmpact

คาดว่ากำไรสุทธิใน 3Q62 จะเพิ่มขึ้น QoQ แต่ลดลง YoY

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ BH ใน 3Q62 จะไม่น่าตื่นเต้น โดยอยู่ที่ 1.07 พันล้านบาท (-5.6% YoY, +47.0%QoQ) คิดเป็น 26.3% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเราที่ 4.06 พันล้านบาท โดยประเด็นสำคัญที่น่าสนใจได้แก่

       i) ไม่มีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากผลประโยชน์พนักงาน 88 ล้านบาทเหมือนใน 2Q62

      ii) ไม่มีรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว (ค่าใช้จ่ายพนักงานตามกฎหมายแรงงานใหม่) 146 ล้านบาทเหมือนใน 2Q62

     iii) intensity ของผู้ป่วยน่าจะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล

     iv) สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมยังอ่อนแอ (ซึ่งจะส่งผลต่อกลุ่มผู้ป่วยที่จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลเองทั้งในส่วนของคนไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะการให้ส่วนลดกับผู้ป่วยตะวันออกกลาง)

เราคาดว่า รายได้จากธุรกิจโรงพยาบาลจะอยู่ที่ 4.69 พันล้านบาท (+0.1% YoY, +9.8% QoQ) ขณะที่คาดการณ์ว่า อัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ 45.0% จาก 46.7% ใน 3Q61 และ 41.4% ใน 2Q62 นอกจากนี้ เราคาดว่า สัดส่วน SG&A/ยอดขายจะอยู่ที่ 18.5% เพิ่มขึ้นเล็กน้อย YoY แต่ลดลง QoQ โดยคาดว่ารายได้จากผู้ป่วยต่างชาติจะคิดเป็นประมาณ 65% ของรายได้รวม ในขณะที่รายได้จากผู้ป่วยชาวไทยจะคิดเป็น 35% ทั้งนี้ ตามปกติแล้ว 3Q มักจะเป็นไตรมาสที่ผลการดำเนินงานของบริษัทแข็งแกร่งในรอบปี แต่การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกน่าจะฉุดให้ margin ลดลงในช่วงปี 2562-63 เนื่องจากไม่สามารถปรับเพิ่มอัตราค่ารักษาพยาบาลได้ง่ายนัก

มีแนวโน้มชัดเจนมากขึ้นว่าจะเติบโตได้อย่างจำกัด

ถึงแม้ว่ากำไรสุทธิของ BH ใน 3Q62 จะยังคงเพิ่มขึ้น QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล แต่เราคิดว่าประมาณการกำไรปี FY62-63 ยังมี downside อยู่ โดยเรายังเป็นห่วงแนวโน้มการเติบโตระยะยาวของบริษัท เนื่องจาก i) แนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาด และ ii) มีโอกาสน้อยลงที่อัตรากำไรจะเพิ่มขึ้นเพราะการแข่งขันจากโรงพยาบาลระดับกลางถึงล่าง นอกจากนี้ เราไม่คาดว่า BH จะเร่งขยายสถานพยาบาลใหม่ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจยังไม่แน่นอน

คงประมาณการกำไรสุทธิปี FY62-63 เอาไว้เท่าเดิม

เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2562-63 เอาไว้ที่ 4.06 พันล้านบาท (-2.3% YoY) และ 4.34 พันล้านบาท (+6.9% YoY) ตามลำดับ

Valuation & Action

ดังนั้น เราจึงยังคงราคาเป้าหมาย 1H63 เอาไว้ที่ 160 บาท (DCF, ใช้ WACC ที่ 7% และ TG ที่ 1%) เรายังคงคำแนะนำ ถือ เนื่องจากเชื่อว่าราคาหุ้นได้สะท้อนแนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนแอในระยะยาวไปเรียบร้อยแล้ว

Risks

การแทรกแซงของภาครัฐ, ปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองรอบใหม่ของไทย, และการก่อการร้ายครั้งใหญ่