'3ค่ายมือถือ'อัดโปรแข่งเดือด โบรกฯผวาฉุดกำไรวูบ

'3ค่ายมือถือ'อัดโปรแข่งเดือด โบรกฯผวาฉุดกำไรวูบ

โบรกเกอร์แนะจับตาหุ้น “กลุ่มสื่อสาร” หลังกลับมาแข่งอัดโปรโมชั่น เชื่อสถานการณ์รอบนี้ไม่รุนแรง เหตุมีบทเรียนจากปี 2561 ที่กระทบทั้งรายได้-กำไร แนะผู้ลงทุนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ชี้หากราคาหุ้นร่วงแรงถือเป็นจังหวะทยอยสะสม

นายพิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) กสิกรไทย กล่าวว่า การแข่งขันของกลุ่มสื่อสาร โดยเฉพาะ 3 ค่ายมือถือ เริ่มทวีความรุนแรงขึ้น จากการสอบถามผู้บริหารของบริษัทสื่อสารรายหนึ่ง พบว่า  บมจ.ดีแทค(DTAC) เริ่มทำโปรโมชั่นพิเศษออกมาก่อน ทำให้อีก 2 ค่ายต้องทำตาม  แต่ทำเฉพาะในกลุ่มลูกค้าเติมเงินก่อน และผู้บริหารของค่ายมือถือดังกล่าวแจ้งว่าเป็นโปรโมชั่นระยะสั้น ซึ่งจะหมดภายในสิ้นเดือนนี้

อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนต้องติดตามว่า การแข่งขันดังกล่าวจะพัฒนาไปอย่างไร เพราะถ้าย้อนไปดูเมื่อปี 2561 ซึ่งแข่งขันกันรุนแรง ช่วงนั้นก็เริ่มจากการทำโปรโมชั่นในกลุ่มลูกค้าเติมเงินก่อน หลังจากนั้นก็ขยายวงออกไปยังกลุ่มลูกค้ารายเดือน การแข่งขันในรอบนี้จึงต้องติดตามดูว่า จะเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันที่รุนแรงอีกหรือไม่

"นักลงทุนมีความกังวลจึงขายหุ้นกลุ่มสื่อสารออกมาจากที่ผ่านมานั้นราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารปรับตัวขึ้นแรง จึงขายทำกำไรลดความเสี่ยงออกมา เพราะไม่รู้ว่าพัฒนาการดังกล่าวจะรุนแรงขึ้นหรือไม่"

อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวประเมินว่า โอกาสที่จะเห็นผู้ประกอบการมือถือ แข่งขันรุนแรงจนเกิดเป็นสงครามราคาเหมือนในอดีตมีน้อยมาก เพราะ ในปี 2561 ที่มีสงครามราคานั้น พบว่า ผลประกอบการของ 3 ค่ายมือถือปรับตัวลดลงอย่างมาก  เช่น ADVANC และ DTAC รายได้ติดลบ ส่วน TRUE รายได้โตเล็กน้อย ขณะที่กำไรสุทธิปรับลดลงทุกบริษัท ทำให้หุ้นร่วงตามลงไปด้วย ดังนั้นแล้วผู้ประกอบการจะตัดราคาทำไมเพื่อ ให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์แล้วบริษัทตัวเองเสียประโยชน์ ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่ควรเกิดขึ้น หรือหากเกิดขึ้นจะไม่นาน

"เชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดแค่ระยะสั้น และในวงจำกัด ไม่กระทบต่อผลประกอบการไตรมาส 3 และเมื่อทุกบริษัทกลับมาแข่งขันกันแบบมีสติ ก็จะทำให้รายได้ กำไร และราคาหุ้นก็จะปรับตัวเพิ่มขึ้น"

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า การแข่งขันราคาโปรโมชั่นของกลุ่มสื่อสาร จะไม่รุนแรงมากขึ้น เพราะ การแข่งขันราคารอบนี้จะเป็นในกลุ่มลูกค้าซื้อซิมใหม่ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เท่านั้น ไม่ได้ทุกภาคของประเทศ ซึ่งเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นการแข่งขันระยะสั้นเท่านั้น เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของผู้ประกอบการมือถือ จึงมองว่าราคาหุ้นที่ปรับลดลงมา  ถือเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ หุ้นแนะนำ ซื้อ ADVANC ให้ราคาเหมาะสมสิ้นปีหน้าที่ 252 บาท และ DTAC ให้ราคาเหมาะสมสิ้นปีหน้าที่ 65 บาท ส่วน TRUE แนะนำถือ ให้ราคาเหมาะสมสิ้นปีนี้ ที่ 6.04 บาทต่อหุ้น

นักวิเคราะห์ บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า การแข่งขันโปรโมชั่นค่ายมือถือรุนแรงขึ้นในกลุ่มลูกค้าเติมเงินเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2562 แต่ความรุนแรงไม่เท่ากับไตรมาส 1 ปี 2562 ที่แรงกว่า ให้อินเตอร์เน็ตอันลิมิเต็ด  แต่ครั้งนี้จ่ายต่อเดือนถูก ให้เดต้าจำวนมากแต่จำกัด ซึ่งเชื่อว่าการแข่งขันระยสั้น โดย และคาดว่าผลประกอบการครึ่งปีหลัง 2562 ปรับตัวดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก และดีกว่าครึ่งปีหลัง 2561 จากฐานต่ำ 

โดยส่วนตัวมีมุมมองเป็นกลางกับกลุ่มสื่อสาร เพราะ ที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรง แม้จะมีการย่อตัวบ้างแต่ยังสูงขึ้นจากปีก่อน ซึ่งหากแนะนำ เลือก AVANC ให้ราคาเหมาะสมถึงกลางปีหน้าที่ 255 บาท ต่อหุ้น