ตัน เล็งลุยธุรกิจ “สุขภาพ” จับมือพันธมิตรโตทางลัด

ตัน เล็งลุยธุรกิจ “สุขภาพ” จับมือพันธมิตรโตทางลัด

เป็นการกลับมาพบหน้าสื่อมวลชนในรอบ 1 ปี สำหรับ “ตัน ภาสกรนที” กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หลังจากตลาดชาเขียวพร้อมดื่มเผชิญการ “หดตัว” ต่อเนื่อง ทำให้ต้องปลีกตัวไป “ปรับโครงสร้าง"ธุรกิจใหม่

ตั้งแต่โละรายการสินค้า(เอสเคยู)ที่ไม่ทำเงินสัดส่วน 30% ออกจากตลาด เช่น น้ำผลไม้ไบเล่ เครื่องดื่มชูกำลัง T247 ซึ่งคาดว่า สินค้าจะหมดจากตลาดราวพ.ย.ถึงม.ค.ปีหน้า

ทว่าเครื่องดื่มฯ T247 ในต่างประเทศ เช่น เมียนมา ยังคงทำตลาดเช่นเดิม การปรับพอร์ตโฟลิโอครั้งนี้ ปรับเฉพาะตลาดในประเทศเท่านั้น เขาย้ำ ขณะที่ไบเล่ ซื้อแบรนด์มา 80 ล้านบาท เพื่อทำในประเทศไทย แม้สินค้าจะไม่มี แต่แบรนด์คือสิ่งที่มี “มูลค่า” ยังเก็บไว้ รอจังหวะที่จะนำกลับมาต่อยอดสร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ๆอีกครั้งในอนาคต

แบรนด์ไบเล่ ในต่างประเทศคือน้ำผลไม้ และเป็นเครื่องดื่มอะไรก็ได้ แต่ในไทยผู้บริโภครับรู้ว่าเป็นน้ำส้ม เมื่อตลาดยังไม่พร้อม ตอนนี้เราขอพักไปก่อน และรอจังหวะอีก 2-3 ปี มาพิจารณาว่าจะต่อยอดอย่างไร เพราะไบเล่คือแบรนด์ของเราและอายุจะร้อยปีพอดี” ตัน กล่าว

นอกจากนี้ ตัน ยังปั้นสินค้าพระเอกใหม่ เพื่อทำตลาดเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็นชาพรีเมียม “ชิซึโอกะ” เพื่อรับเทรนด์สุขภาพ และปลุก “อิชิตันชิวชิว” ให้เข้าไปเจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นโดยเฉพาะเจนเนอเรชั่นซี(Z)อีกครั้งในรอบ 2 ปี ด้วยการผนึก การีน่า” ยักษ์ใหญ่เกมของโลก ทำแคมเปญ อิชิตัน รหัสล่าสกินปืนกาแล็กซีดับสูญ” เพื่อเล่นเกม Free Fire ผ่านการแจกไอเทมเด็ดจากรหัสใต้ฝา

การเลือกทำตลาดกับคอเกม เพราะมองว่า “วัยรุ่น” คนรุ่นใหม่ ทั้งเจนฯวาย(Y) อายุ 25-39 ปี มีมากถึง 21.1% หรือราว 15 ล้านคน เจนฯซี อายุ 10-24 ปี มี18.3% หรือราว 12.5 ล้านราย และเจนฯอัลฟ่าอายุต่ำกว่า 10 ปี มี 10.8% หรือราว 7.4 ล้านคน เหล่านี้ถือเป็นฐานผู้บริโภคที่จะเติบโตและกลายเป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในอนาคต ประกอบกับต้นปี ชาเขียวอิชิตัน รสฮันนี่ เลเมอนชิมลางทำแคมเปญกับการีน่า เพียง 3 เดือน สินค้าเอสเคยูดังกล่าวสามารถโกยยอดขายจนเป็น “ผู้นำตลาด” ในระยะสั้นๆ กระทั่งจบแคมเปญแล้ว รวมครองความเป็นผู้นำตลอดได้ 5 เดือน

สำหรับเกม Free Fire พัฒนามาเอาใจคอเกมประมาณ 1 ปี แต่มีฐานผู้เล่นเกมทั่วโลก 450 ล้านราย เฉพาะยอดผู้ออนไลน์พร้อมกันมีมากถึง 50 ล้านราย ยิ่งมาดูโอกาสตลาดเกมผ่านอีสปอร์ต จะพบว่าแนวโน้มจำนวนผู้ชมมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 15% ต่อเนื่องถึง 4 ปี(2559-2563)

ดังนั้น การกลับมาบุกตลาดชาเขียวพร้อมดื่มในหมู่วัยรุ่น คนรุ่นใหม่ ผ่านแคมเปญใหม่ที่จะทำต่อเนื่อง 2 เดือนเศษ บริษัทคาดว่าจะกระตุ้นยอดขายชิวชิวได้ประมาณ 100 ล้านบาท

ขณะที่ภาพรวมตลาดชาเขียวพร้อมดื่ม 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) มีมูลค่า 8,426 ล้านบาท เติบโต 5.1% โดยเซ็กเมนต์เมนสตรีม หรือราคา 10-20 บาท เป็นตลาดใหญ่สัดส่วน 67% ชาสมุนไพร 13% พรีเมี่ยม 11% และชาผสมวุ้นมะพร้าว 9%

นอกจากตลาดในประเทศปรับตัวแล้ว ต้องแก้เกมในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ที่ทุ่มเงินมหาศาลบุกตลาดชาเขียวพร้อมดื่ม จนเจอเจ้าตลาดดัมพ์ราคา “ฆ่า” ให้แบรนด์ไทยและพันธมิตรญี่ปุ่น อินโดนีเซียค่อยๆตายช้าๆ แต่ด้วยสายเลือดนักการตลาดช่างสังเกต ตัน” จึงเห็นว่าตลาดชานมไทยเป็น “ขุมทรัพย์” ใหม่ที่จะช่วยยื้อธุรกิจให้รอด จึงออกสินค้าชานมไทยไปแข่ง และสร้างยอดขายเติบโตอย่างดี จนคาดว่าจะทำให้ธุรกิจพลิกมี “กำไร” ส่งเงินกลับไทยปีหน้า

ตัน บอกว่า การกลับมาครั้งนี้ ไม่ได้มุ่งฟื้นธุรกิจให้มี กำไรเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการพาองค์กร ฝ่าวิกฤติให้ได้ และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต !!

อย่างไรก็ตาม แผนธุรกิจดังกล่าว ตันใช้กลยุทธ์ 3N ได้แก่ New Product ส่งสินค้าใหม่ทำตลาดแทนสินค้าเดิม New Market มองหาโอกาสจากตลาดใหม่ และสุดท้ายคือ New Business ซึ่งธุรกิจใหม่ที่จะทำเน้นพึ่งพิง ทางลัด” มากกว่าลงทุนเอง จึงเปิดทาง ร่วมทุน” กับพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่ง เชี่ยวชาญในธุรกิจนั้นๆ

เราไม่เน้นลงทุนเองด้วยการใช้งบประมาณมากๆ แต่ต้องการต่อยอดจากพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจนั้นๆอยู่แล้ว เขาบอกและขยายความว่า ธุรกิจใหม่ที่มองหาจะเน้นเรื่อง “สุขภาพ” เป็นหลัก ครอบคลุมถึงเรื่องของเทคโนโลยีใหม่ๆ และไม่จำกัด “เซ็กเตอร์” เว้นแต่ ธุรกิจอาหาร” ที่ยืนยันว่าจะไม่ทำ เนื่องจากต้องใช้พนักงานจำนวนมาก   

ตอนนี้เราคุยกับพันธมิตร 2-3 ราย เพื่อขยายธุรกิจใหม่ ซึ่คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปีหน้า