ผันผวน..รอปัจจัยใหม่

ผันผวน..รอปัจจัยใหม่

รอซื้อเล่นรีบาวด์ช่วงอ่อนตัว

ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index ทรุดตัวลงแรง -13.41 จุด (-0.82%) ปิดที่ระดับ 1,622 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน อีกทั้งตัวเลข PMI รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นเดือนก.ย.ของเยอรมนีลงต่ำสุดในรอบเกือบ 7 ปี รวมถึงความกังวลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนในเดือนต.ค.อาจไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งนี้เป็นแรงขายในกลุ่ม ICT, FIN และ BANK ส่วนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,565 ล้านบาท รวมถึงขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 736 ล้านบาท และ Net Short TFEX จำนวน 11,681 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้

เรามีมุมมองเป็นกลางคาด SET แกว่งตัว 1,615 – 1,630 จุด โดยแม้ว่าภาวะตลาดจะได้ sentiment เชิงบวกจากสถานการณ์ Tradewar หลังจีนสั่งซื้อถั่วเหลือง 600,000 ตันจากสหรัฐซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณบวกต่อการเจรจาการค้าที่จะจัดขึ้นในเดือนต.ค. ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวระดับสูงจากสถานการณ์ตะวันออกกลางที่ยังตึงเครียดหลังสหรัฐเพิ่มกองกำลังทหารเข้าประจำการในอ่าวเปอร์เซีย อย่างไรก็ตามแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งยุโรปที่หดตัวลงจากผลกระทบ Tradewar รวมถึงทิศทาง Fund Flow ต่างชาติที่ยังคงไหลออก (Net sell 8 พันลบ. MTD.) จะกดดันให้แนวโน้มดัชนีมีความผันผวนสูง ดังนั้น แนะนำรอซื้อเล่นรีบาวด์ช่วงอ่อนตัวเช่นเดิม

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่มพลังงาน (PTTEP, TOP) อานิสงส์ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือ 58 US/Barrel
  • กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD, THANI) ได้ประโยชน์ต้นทุนลดลงจากทิศทางดอกเบี้ยขาลง
  • หุ้น Defensive stock AOT, INTUCH, ADVANC, BEM, BTS, BDMS, BCH, CHG, GPSC, BGRIM, TPCH, TTW, CPALL

หุ้นแนะนำวันนี้

  • ERW (ปิด 5.70 ซื้อ/ เป้า 7.2 บาท) “ชิม ช้อป ใช้” ฮอตฮิตต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยมียอดลงทะเบียนรับสิทธ์เต็มเพดานที่ 1 ล้านคนต่อวันเป็นวันที่ 2 นับเป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวโดยเฉพาะโรงแรม ซึ่งเราเลือก ERW เป็น Top pick ที่คาดว่าจะได้ผลบวกจากมาตรการนี้มากที่สุดเพราะมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรมในประเทศคิดเป็น 90% ของรายได้รวม
  • PTTEP (ปิด 124.5 ซื้อ/เป้า 160 บาท) เราคาดว่า PTTEP จะเป็นหุ้นในกลุ่ม ปตท.ที่มีกำไรสุทธิเติบโตโดดเด่นที่สุดใน 3Q19 จากแรงหนุนของยอดขายที่เพิ่มขึ้นหลังเริ่มรวมปริมาณการผลิตและขายจากแหล่ง Murphy ในมาเลเซียเข้ามาเป็นไตรมาสแรก ขณะเดียวกัน PTTEP ไม่มีความเสี่ยงจากการขาดทุนจากสินค้าคงคลัง หรือ Stock loss เหมือนกลุ่มโรงกลั่น

บทวิเคราะห์วันนี้

CENTEL (ปิด 31.5 ถือ/ เป้า 33 บาท), ICT sector (Top pick: ADVANC, INTUCH, DTAC)  

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+) Trade war มีสัญญาณบวก หลังจีนสั่งซื้อถั่วเหลืองล็อตใหญ่จากสหรัฐ หนุนการเจรจาระงับข้อพิพาทของทั้ง 2 ประเทศเดินหน้าต่อ: วานนี้นักลงทุนวิตกกังวลว่าการเจรจาเพื่อระงับข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐจะสะดุดลงหลังจีนสั่งให้เจ้าหน้าที่ที่กำลังไปตรวจเยี่ยมฟาร์มเกษตรในสหรัฐเดินทางกลับอย่างเร่งด่วน แต่วันนี้สถานการณ์ดังกล่าวดูผ่อนคลายลงหลังจีนประกาศนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐกว่า 6 แสนตัน ถือเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่จีนประกาศขึ้นภาษีนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐตั้งแต่เดือน ก.ค.ปีที่แล้ว การสั่งซื้อดังกล่าวนับเป็นสัญญาณบวกต่อการบรรลุข้อตกลงการค้า ซึ่งทั้ง 2 ประเทศจะมีการประชุมร่วมกันในระดับรัฐมนตรีในช่วงต้นเดือนหน้า
  • (-) PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนเดือน ก.ย.ร่วงสู่ระดับ 45.6 ต่ำสุดในรอบ 7 ปี: แนวโน้มเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศในยูโรโซนยังอ่อนแอ เห็นได้จากรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตของหลายประเทศในยูโรฯยังลดลงอย่างต่อเนื่องนำโดย เยอรมนี ลดลงสู่ระดับ 41.4 จาก 43.5 ในเดือน ส.ค. นับเป็นการลดลงทำสถิติต่ำสุดในรอบ 10 ปี เช่นเดียวกับฝรั่งเศสที่ลดลงสู่ระดับ 50.3 ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน กดดันให้ดัชนี PMI ภาคการผลิตรวมของยูโรโซนลดลงสู่ระดับ 45.6 จาก 47 ในเดือน ส.ค. ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 7 ปี (ดัชนีต่ำกว่า 50 สะท้อนภาคการผลิตหดตัว และบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ) 
  • (+) กลุ่มธุรกิจน้ำมัน - การผลิตน้ำมันดิบของซาอุฯที่ยังไม่กลับสู่ปกติ จะยังเป็นหนุนให้ราคาน้ำมันยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง: แม้อุปสงค์น้ำมันดิบของโลกจะมีแนวโน้มลดลงตามทิศทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่เราเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบจะไม่ลดลงแรงและจะยังประคองตัวอยู่ในระดับสูงต่อไป โดยมีสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและการผลิตน้ำมันดิบที่ลดลงของซาอุฯเป็นปัจจัยหนุนหลัก โดยล่าสุดสหรัฐประกาศคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติมและส่งกองกำลังทหารเข้าไปในอ่าวเปอร์เซียมากขึ้น ขณะที่หนังสือพิมพ์วอลสตรีทเจอนัลรายงานว่า บริษัท ซาอุดิอารามโก อาจใช้เวลามากกว่า 1 เดือนในการซ่อมแซมแหล่งผลิตที่ได้รับความเสียหายจากเหตุโจมตีเมื่อวันที่ 14 ก.ย.19