‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘อ่อนค่า’ ที่ 30.48บาทต่อดอลลาร์

‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘อ่อนค่า’ ที่ 30.48บาทต่อดอลลาร์

ตลาดไม่เคลื่อนไหวมาก นักลงทุนรอติดตามประชุมกนง. พุธนี้ คาดกนง. คงดอกเบี้ยที่1.5%

นายจิติพล  พฤกษาเมธานันท์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทย  เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ30.48 บาทดอลลาร์อ่อนค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ30.46บาทต่อดอลลาร์

ในสัปดาห์นี้เชื่อว่าตลาดจากเคลื่อนไหวไม่มากเช่นเดียวกับในสัปดาห์ก่อนเพราะนักลงทุนส่วนใหญ่จะรอการประชุมกนง.ในวันพุธซึ่งครั้งก่อนลดดอกเบี้ยโดยที่ตลาดไม่ทันทั้งตัวด้วยภาวะปัจจุบันก็มีความเป็นไปได้ที่ธปท.จะใช้เหตุผลเดิมในการลดดอกเบี้ยต่อเนื่องซึ่งอาจกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้

อย่างไรก็ดีเรายังคงมองภาพบวกกับเงินบาทเพราะเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่ไม่ได้เจอกับแรงขายเหมือนสกุลเงินEM อื่นๆในช่วงที่บอนด์ยีลด์สหรัฐปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

แต่เชื่อว่าเงินบาทจะแข็งค่าถ้าบอนด์ยีลด์สหรัฐพลิกตัวลงซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทั้งเมื่อยีลด์ปรับตัวสูงขึ้นใกล้แนวต้าน2.00% หรือปรับตัวลงทันทีที่ตลาดปิดรับความเสี่ยง(Risk Off)

มองกรอบค่าเงินบาทวันนี้30.42-30.52 บาทต่อดอลลาร์และกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้30.25-30.75 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับในสัปดาห์นี้ประเด็นสำคัญของตลาดจะอยู่ที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในวันพุธเราคาดว่ากนง. จะ“คง อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ1.50% เพราะน่าจะต้องใช้เวลาในการประเมินผลกระทบจากการลดดอกเบี้ยครั้งที่ผ่านมาก่อนอย่างไรก็ดีเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงปัญหาอุทกภัยและการลงทุนที่ไม่ฟื้นตัวเป็นความเสี่ยงหลักที่กดดันให้ธปท.อาจต้องลดดอกเบี้ยต่อในปีนี้

ทางด้านรายงานข้อมูลเศรษฐกิจทั่วโลกก็เป็นไปในทิศทางที่ไม่สดใสนักเริ่มจากฝั่งยุโรปในวันอังคารดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ(Ifo Business Climate) ที่จะปรับตัวลดลงสู่ระดับ93.8 จุดเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ104.0จุดเห็นได้ชัดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจเยอรมันชะลอตัวลงต่อเนื่อง

ถัดมาในวันพุธตลาดมองว่าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางนิวซีแลนด์(RBNZ) จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย(Cash Rate) ที่ระดับ1.00%

แตกต่างกับในวันพฤหัสฯธนาคารกลางฟิลิปปินส์(BSP) จะ“ลด อัตราดอกเบี้ยนโยบาย(Overnight Rate) ลง0.25% สู่ระดับ4.00%

และในวันศุกร์คาดว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในสหรัฐฯ(Durable goods orders) จะหดตัว1.2% จากเดือนก่อนหน้า

ส่วนดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน(Core PCE Deflator) จะเร่งตัวขึ้นมาที่ระดับ1.8% ชี้ว่าเฟดอาจไม่ได้มีความสามารถที่จะลดดอกเบี้ยมากอย่างที่ตลาดหวัง