'น้ำหอมสยาม 1928' หอมเย็นแบบไทย แต่ให้ความรู้สึกทันสมัย

'น้ำหอมสยาม 1928' หอมเย็นแบบไทย แต่ให้ความรู้สึกทันสมัย

'สุวิทย์ วงศ์รุจิราวาณิชย์' นักออกแบบรุ่นใหม่ยกเคส 'น้ำหอมสยาม 1928' ผลิตภัณฑ์โดยคนรุ่นใหม่ที่ให้ความเคารพองค์ความรู้ภูมิปัญญาที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น โดยปรับสูตรน้ำหอมในจุดที่เหมาะสมเพื่อจับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่

ถ้าเอ่ยถึงน้ำอบปรุงโบราณที่อยู่คู่สยามมาอย่างยาวนาน คงจะข้ามแบรนด์ “น้ำอบปรุงเจ้าคุณ” ไปไม่ได้ หรืออาจกล่าวได้ว่า น้ำอบปรุงโบราณก็คือ “น้ำหอมสยาม” ที่ใช้พรมร่างกายให้สดชื่นพร้อมกลิ่นหอมจากดอกไม้ และสมุนไพรไทย จึงไม่น่าแปลกใจว่าสูตรการปรุงอันเก่าแก่ของคุณหญิงบุญธรรม บริรักษ์นิติเกษตร ผู้ก่อตั้งแบรนด์จึงหอมนานอยู่คู่คนไทยมากว่า 91 ปี

 

วันนี้ทายาทรุ่นที่ 4 ณัท เวชชศาสตร์ ได้นำองค์ความรู้ด้านการปรุงของคุณทวดมาปรับสูตร พร้อมเปลี่ยนภาพลักษณ์น้ำอบปรุงโบราณให้กลายเป็นน้ำหอมจากแดนสยามที่มีความทันสมัยไม่ตกยุค โดยตั้งแบรนด์ใหม่ว่า SIAM1928 เพื่อเป็นการให้เกียรติ และรำลึกถึงปี 1928 ปีเริ่มต้นที่คุณทวดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เป็นครั้งแรก พร้อมสร้าง Brand Positioning ที่แตกต่างจาก “น้ำอบปรุงเจ้าคุณ” แบรนด์เดิมที่มักใช้ในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนา หรือเทศกาลสงกรานต์เท่านั้น

 

แต่การสร้างแบรนด์ใหม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนกระบวนการผลิตทั้งหมด ในทางตรงกันข้าม ณัทนำสูตรน้ำอบปรุงโบราณมาปรับใช้กับน้ำหอม SIAM1928 เช่น การนำน้ำ หนึ่งในส่วนผสมหลักของการทำน้ำหอม (น้ำมันหอมระเหย น้ำ และแอลกอฮอล์) มาผ่านกรรมวิธีการ “อบร่ำ” ด้วยเทียนหอมที่ผสมจากสมุนไพรต่าง ๆ เป็นสูตรการทำเทียนหอมของครอบครัว จนทำให้น้ำหอม SIAM1928 มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ มีความหอมเย็นแบบไทย แต่ให้ความรู้สึกทันสมัย กลิ่นติดทนนานไม่ต่างจากน้ำหอมต่างชาติ สำหรับกลิ่นใหม่ที่เพิ่งคลอดในเดือนนี้เป็นน้ำหอมไทยกลิ่น “จันนาลัจ” และ “รัสวิกา” ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการปรุงจากคืนพระจันทร์เต็มดวง และคืนเดือนดับ ตัวขวดน้ำหอมทำจากกระเบื้องเคลือบสีนวล China Bone พร้อมลวดลายกระต่ายน้อยในคืนวันเพ็ญสำหรับกลิ่นจันนาลัจ และหญิงสาวในคืนเดือนมืดสำหรับกลิ่นรัสวิกา โดยใช้ทอง 14K ประทับสัญลักษณ์ SIAM1928 บนขวดกระเบื้องเคลือบ ส่วนบรรจุภัณฑ์กระดาษ นอกจากรายละเอียดของน้ำหอมแล้ว ยังนำบทกลอนอันไพเราะมาสร้างเรื่องราวให้กับน้ำหอมทั้ง 2 กลิ่นด้วย

 

อีกหนึ่งแนวคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยคนรุ่นใหม่ที่ให้ความเคารพองค์ความรู้ภูมิปัญญาที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น โดยปรับสูตรน้ำหอมในจุดที่เหมาะสมเพื่อจับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ เปลี่ยนภาพลักษณ์จากผลิตภัณฑ์เดิมให้กลายเป็น “น้ำหอมสยาม” ที่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นไทยผ่านการปรุงกลิ่นแบบดั้งเดิม และเหมาะกับผู้บริโภคในยุคนี้