ปีทอง ‘แพลนบี’ ราคาพุ่งนิวไฮ

ปีทอง ‘แพลนบี’ ราคาพุ่งนิวไฮ

ปีทอง ‘แพลนบี’ ราคาหุ้นพุ่งเป็นประวัติการณ์ รับข่าวดีคว้าสิทธิ์โฆษณา ‘เซเว่น’ ต่อยอดการเติบโต

ธุรกิจ “สื่อโฆษณานอกบ้าน” เติบโตสวนทางสื่อประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะสื่อเก่าอย่างโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ฯลฯ ที่เม็ดเงินโฆษณาหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคยุคใหม่ที่กำลังเปลี่ยนไป ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านมากขึ้น ไม่ว่าจะออกไปทำงาน กินข้าว ดูหนัง ช้อปปิ้ง แฮงค์เอ้าท์ ดังนั้น รูปแบบการใช้เม็ดเงินโฆษณาของบรรดาเจ้าของแบรนด์สินค้าต่างๆ ต้องปรับเปลี่ยนไปตามไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคด้วยเช่นกัน

ทำให้สื่อใหม่ๆ อย่างสื่อโฆษณาบนระบบขนส่งมวลชน ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน รถเมล์ของขสมก. เติบโตต่อเนื่อง เพราะเข้าถึงคนจำนวนมาก และสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสื่อสารได้ เช่นเดียวกับป้ายโฆษณาบิลบอร์ด ตามถนนหนทาง อาคารสำนักงานต่างๆ ซึ่งทุกวันนี้ได้พัฒนารูปแบบมาเป็นป้ายดิจิทัล มีการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ทำให้มีลูกเล่นมากขึ้น ช่วยดึงดูดสายตาจากผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการสื่อโฆษณานอกบ้านที่ชั่วโมงนี้น่าจับตามองมากๆ เพราะมักจะมีอะไรให้ได้ตื่นเต้นเซอร์ไพรส์กันอยู่เสมอ ที่เรียกเสียงฮือฮาล่าสุด บริษัทได้เข้าไปบริหารสื่อโฆษณาในร้านสะดวกซื้อชื่อดังขวัญใจคนไทย “เซเว่นอีเลฟเว่น” ซึ่งได้รับสิทธิ์มาทั้งหมดกว่า 3,000 สาขา เป็นเวลา 10 ปี

บริษัทมีแผนที่จะติดตั้งจอโฆษณาดิจิทัลถึง 3 จุด ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ได้แก่ 1. เหนือตู้แช่เครื่องดื่ม 2. เหนือตู้แช่สินค้าอาหารพร้อมรับประทานและผลิตภัณฑ์นม และ 3. เหนือชั้นวางสินค้าต่างๆ เช่น อาหารและเครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว ของใช้ส่วนตัว ซึ่งล้วนเป็นตำแหน่งสำคัญที่ผู้ใช้บริการสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

โดยจะทยอยติดตั้งจอโฆษณาตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2563 ไตรมาสละ 500 สาขา จนครบ 2,000 สาขา ในสิ้นปี 2563 และเพิ่มอีก 1,000 สาขา เป็น 3,000 สาขา ในปี 2564 เน้นสาขาที่อยู่ในแหล่งชุมชน ตามสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้ใช้บริการต่อวันเยอะๆ มียอดซื้อต่อบิลสูงๆ และแต่ละสาขาการแสดงเนื้อหาโฆษณาจะแตกต่างกันออกไป เปลี่ยนไปตามช่วงเวลา ให้สอดรับกับพฤติกรรม ความชอบของผู้บริโภค รวมถึงตอบสนองความต้องการของเจ้าของสินค้าให้ได้มากที่สุด

ดีลนี้ถือเป็นการเดินเกมรุกครั้งสำคัญของแพลนบี เพราะการที่ได้จับไม้จับมือเป็นพันธมิตรกับยักษ์ใหญ่ค้าปลีกเซเว่นอีเลฟเว่น ช่วยการันตีได้ว่าลูกค้าที่จะลงโฆษณาผ่านจอดิจิทัลของแพลนบี อย่างน้อยๆ มีโอกาสผ่านสายตาผู้บริโภคหลายล้านคนต่อวัน เพราะโดยเฉลี่ยมีผู้ใช้บริการเซเว่นฯ มากกว่า 15 ล้านคนต่อวัน มีการซื้อสินค้ากว่า 50 ล้านรายการต่อวัน จากจำนวนสาขาทั้งหมด 12,000 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศ

ปีนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งปีทองของบริษัท เพราะมีข่าวดีเข้ามาตลอด ก่อนหน้านี้เพิ่งจะคว้าสิทธิ์ถ่ายทอดสดและดูแลการตลาดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 ก.ค. ถึง 9 ส.ค. 2563 ร่วมกับทาง “เดนท์สุ” นอกจากนี้ยังได้สิทธิ์มาอีก 3 รายการ ได้แก่ โอลิมปิกฤดูหนาว ปักกิ่ง 2022, โอลิมปิกเยาวชน ดาการ์ 2022 และ โอลิมปิกเยาวชนฤดูหนาว โลซาน 2020

ต้นปีได้มีการขายหุ้น 18.59% ให้กับบริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ได้เงินมา 4.6 พันล้านบาท ถือเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญของ 2 ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน มีการขายแพ็คเกจโฆษณาร่วมกัน ส่วนปีก่อนเรียกเสียงฮือฮาจากบรรดาโอตะ หลังเข้าไปซื้อหุ้นของ “BNK48” วงศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังในสัดส่วน 35% เพื่อต่อยอดการเติบโตจากธุรกิจบันเทิง

พัฒนาการต่างๆ สะท้อนมาถึงผลประกอบการและราคาหุ้นของแพลนบี ที่ตอนนี้กำลังเดินหน้าทำระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ จนไปเข้าตาดัชนี FTSE เลือกบริษัทเป็น 1 ในหุ้นที่ได้เข้าคำนวณในดัชนี FTSE Small Cap รอบล่าสุด

ด้านบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า มีมุมมองบวกกับการที่บริษัทได้รับสิทธิ์ในการบริหารสื่อโฆษณาในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เบื้องต้นคาดว่าจะรับรู้รายได้เข้ามา 525 ล้านบาท ในปี 2563 และ 840 ล้านบาท ในปี 2564 สำหรับ 2,000 สาขาแรกที่ได้เซ็นสัญญาไปแล้ว ภายใต้สมมติฐานอัตราการจองโฆษณาที่ 70% และจะรับรู้กำไรที่ 79 ล้านบาท และ 126 ล้านบาท ตามลำดับ ถือเป็นอัพไซด์ส่วนเพิ่มต่อผลประกอบการของบริษัท

โดยฝ่ายวิจัยได้มีการปรับประมาณการกำไรในปี 2562 - 2564 เพิ่มขึ้น 3.5%, 12.2% และ 16.1% ตามลำดับ เป็น 770 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20%, 1,026 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% และ 1,171 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% ตามลำดับ จากการรับรู้รายได้จากโฆษณาในเซเว่นอีเลฟเว่น และรายได้จากการบริหารสื่อโฆษณาการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก