เปิดลงทะเบียน 'ชิมช้อปใช้' วันนี้...มั่นใจระบบไม่มีล่ม!

เปิดลงทะเบียน 'ชิมช้อปใช้' วันนี้...มั่นใจระบบไม่มีล่ม!

“กรุงไทย” มั่นใจระบบ “จี-วอลเล็ต” ภายใต้แอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ไม่มีล่ม เริ่มเปิดลงทะเบียนวันนี้ถึง 15 พ.ย.62 เผยแค่ถ่ายรูปบัตรประชาชน พร้อมเซลฟี่ สามารถเปิดใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องมาที่สาขา

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการชิมช้อปใช้ของรัฐบาล สามารถเข้ามาลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.ถึง 15 พ.ย.2562 ที่เว็บไซต์ www.ชิมช้อปใช้.com โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนวันละไม่เกิน 1 ล้านราย เพื่อต้องการกระจายให้คนได้รับสิทธิเท่าเทียมกันและต้องการให้มั่นใจว่าระบบมีเสถียรภาพ รองรับการลงทะเบียนดังกล่าวได้

ภายหลังการลงทะเบียนผู้ใช้สิทธิ์จะได้รับรหัส OTP เพื่อใช้ดาวน์โหลด แอปพลิเคชั่น เป๋าตัง ซึ่งสามารถนำไปดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเป๋าตังที่มี “จี-วอลเล็ต” ได้ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.เป็นต้นไป หลังจากดาวน์โหลดแอพเสร็จ ต้องกรอกรหัส 6 หลักที่ได้รับจาก OTP และถ่ายรูปบัตรประชาชนและเซลฟี่ผ่านแอปฯ เพื่อยืนยันตัวตน ซึ่งจะเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นดังกล่าวได้ทันที

“ผู้สมัครไม่จำเป็นต้องมาที่สาขา ไม่ต้องมีบัญชีธนาคารกรุงไทย ซึ่งทุกธุรกรรมสามารถทำได้ผ่านแอพ และสำหรับคนที่จะเติมเงินผ่าน จี-วอลเล็ต หากใช้เงินไม่หมด สามารถโอนกลับได้ ไม่ต่างจากอีวอลเล็ตทั่วไป โดยลูกค้าเมื่อลงทะเบียนจะได้รับเงิน 1,000 บาท ต้องใช้จ่ายภายใน 14 วัน ซึ่งสิทธิ์จะคงอยู่จนถึงสิ้นเดือนพ.ย.”

นายผยง กล่าวว่า ธนาคารมีความพร้อมค่อนข้างมากในการเตรียมระบบเพื่อรองรับการลงทะเบียนและการใช้จ่ายผ่านแอพพลิเคชั่น “เป๋าตุง” รวมทั้งเตรียมพร้อมสำหรับ จี-วอลเล็ต ที่อยู่ภายใต้แอพพลิเคชั่นดังกล่าว โดยมั่นใจว่าระบบดังกล่าวจะไม่ล่ม หรือเกิดปัญหาติดขัดแน่นอน เพราะระบบโครงสร้างพื้นฐานของแอพพลิเคชั่นดังกล่าว เป็นคนละระบบกับกรุงไทย NEXT ดังนั้น การใช้จะไม่มีการฉุดหรือแย่งกันและจากการทดสอบของธนาคารในช่วงที่ผ่านมา เชื่อว่าจะรองรับการใช้จ่ายผ่าน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับมาตรการ ชิม ช้อป ใช้ ทางรัฐบาลคาดว่า จะมีคนลงทะเบียนราว 10 ล้านคน ซึ่งเงินในกระเป๋าจากโครงการนี้จะแบ่งเป็น 2ส่วน ส่วนแรก คือ กระเป๋าเงิน เพื่อรองรับ สิทธิที่รัฐบาลให้ คือ 1,000 บาท โดยสามารถนำไปใช้สิทธิในจังหวัดที่ลงทะเบียนไว้ 

สิทธิที่สอง คือ ผ่าน g-Wallet ที่สามารถเติมเงิน เพื่อนำไปใช้จ่าย ในโครงการของรัฐบาบได้ ถึงสามารถใช้สิทธิสูงสุด 30,000 บาท ซึ่งจะมีสิทธิ ได้รับเงินคืนสูงสุด 15% หรือไม่เกิน 4,500 บาท โดยเมื่อรวมสิทธิ จากเงินที่รัฐบาลให้ และสิทธิจากการเติมเงินเพื่อใช้ท่องเที่ยว จะทำให้ ประชาชนมีโอกาสได้รับเงินสนับสนุนเพื่อใช้จ่าย ท่องเที่ยวต่อคนถึง 5,500 บาท 

ส่วนแอปพลิเคชั่นที่สอง คือ ถุงเงิน ซึ่งถือเป็นแอปฯสำหรับร้านค้า ปัจจุบัน มีร้านค้าลงทะเบียนแล้ว 1.4 แสนร้านค้า ดังนั้นผู้ที่ลงทะเบียนสามารถใช้จ่ายผ่านร้านค้าเหล่านี้ได้

ทั้งนี้ สำหรับร้านค้า ที่เปิดให้ใช้จ่าย ผ่านถุงเงิน จะได้รับเงินคืนจากกรมบัญชีกลาง ภายในวันรุ่งขึ้นของวันทำการ เว้นเสาร์อาทิตย์ ส่วนสิทธิที่สอง หากมีการใช้จ่ายผ่าน วอลเลจ ร้านค้จะได้เงินทันที ในวันรุ่งขึ้น ไม่เว้นเสาร์อาทิตย์ สำหรับเงินคืน 15% รัฐบาลจะคืนเงินให้ภายในเดือนธ.ค. สำหรับผู้ที่ไปใช้จ่ายและท่องเที่ยว