'เรืองไกร' ร้องสอบ 'ธรรมนัส' ถือหุ้นสื่อ

'เรืองไกร' ร้องสอบ 'ธรรมนัส' ถือหุ้นสื่อ

"เรืองไกร" ร้องกกต. สอบ "ธรรมนัส" ขาดคุณสมบัติ ส.ส. เหตุถือหุ้น 3 บริษัท ประกอบธุรกิจสื่อ ขณะลงสมัครรับเลือกตั้ง

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ เข้ายื่นคำร้องต่อกกต.ขอให้ตรวจสอบ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตร และส.ส.เขต 1 จ.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากมีลักษณะต้องห้ามเข้าข่ายขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่ง ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3) ประกอบมาตรา 101 (6) หรือไม่ โดยเรืองไกร กล่าวว่า ได้ตรวจสอบการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินหนี้สินต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ของ ร.อ.ธรรมนัส  แล้วว่าพบว่าได้แสดงรายการว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นกรรมการ และผู้ถือหุ้น จาก 5 บริษัทคือ บริษัทโกลเบิล ทราเวิล เอเจนซี่ จำกัด  บริษัทสิทธิอาโป จำกัด และบริษัท ธรรมนัส พัทยา การ์ด (2009) จำกัด ในช่วงเดือนเม.ย. 62 หลังการสมัครรับเลือกตั้งและการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.

นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า เมื่อตรวจสอบวัตถุประสงค์การจดทะเบียนบริษัทกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ ก็พบว่าทั้ง 3 บริษัท มีการระบุวัตถุประสงค์การประกอบกิจการบริษัทไว้เหมือนกันในข้อ 11 ว่า ประกอบกิจการบริการจัดเก็บ รวบรวม จัดทำ จัดพิมพ์ และเผยแพร่สถิติ ข้อมูลในทางเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม การเงิน การตลาด รวมทั้งวิเคราะห์ ประเมินผลในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งข้อความตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวศาลรัฐธรรมนูญได้รับวินิจฉัยในกรณีที่ส.ส.ถูกร้องว่าเข้าข่ายขาดคุณสมบัติการเป็นส.ส.เนื่องจากถือครองหุ้นในธุรกิจสื่อ 

               

“กรณีของร.อ.ธรรมนัส แม้ว่าจะลาออกจากการเป็นกรรมการ และผู้ถือหุ้นใน 3 บริษัทซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการเช่นเดียวกับที่ศาลรัฐธรรมนูญรับไว้พิจารณาวินิจฉัยกรณีส.ส.ถูกร้องว่าถือหุ้นสื่อเข้าข่ายพ้นจากตำแหน่ง แต่ก็เป็นการลาออกหลังการรับสมัครส.ส.วันที่ 4-8 ก.พ. 62 และหลังการเลือกตั้ง 24 มี.ค. ซึ่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) กำหนดลักษณะต้องห้ามของผู้มีสิทธิสมัครลงรับเลือกตั้งส.ส.ไว้ว่า ห้ามเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในธุรกิจสื่อ ดังนั้นร.อ.ธรรมนัสจึงเข้าข่ายขาดคุณสมบัติในการลงสมัครรับเลือกตั้งและขาดคุณสมบัติการเป็นส.ส. ”นายเรืองไกรกล่าว