"แอมเนสตี้"ประณามตำรวจฮ่องกงทรมานผู้ประท้วง

"แอมเนสตี้"ประณามตำรวจฮ่องกงทรมานผู้ประท้วง

แอมเนสตี้ ระบุในแถลงการณ์ว่า ตำรวจใช้ "ความรุนแรงมากไปและเกินความจำเป็น" ในการจับกุมผู้ประท้วง โดยมีการทุบตีผู้ชุมนุมที่ไม่ยอมตอบคำถามและตรึงร่างกายของพวกเขาไว้กับพื้น

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยแพร่แถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ชุมนุมประท้วงในฮ่องกง โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง และใช้วิธี "ทรมาน" ผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมจากการประท้วงครั้งล่าสุด

แอมเนสตี้ ระบุในแถลงการณ์ว่า ตำรวจใช้ "ความรุนแรงมากไปและเกินความจำเป็น" ในการจับกุมผู้ประท้วง โดยมีการทุบตีผู้ชุมนุมที่ไม่ยอมตอบคำถามและตรึงร่างกายของพวกเขาไว้กับพื้น อีกทั้งยังยิงแสงเลเซอร์เข้าไปในตาของผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัวไว้แล้ว และมีการขู่ว่าจะใช้กระแสไฟฟ้าจี้ไปที่อวัยเพศของผู้ชุมนุมชายคนหนึ่ง หลังจากเขาได้ปฏิเสธที่จะปลดล็อคโทรศัพท์มือถือเพื่อให้ตำรวจตรวจสอบ

แอมเนสตี้ระบุว่า แถลงการณ์นี้ถูกเผยแพร่ออกมาหลังจากได้เข้าไปสัมภาษณ์ผู้ชุมนุมที่ถูกตำรวจจับกุมตัวจำนวน 21 คน โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและทนายความของผู้ชุมนุมเหล่านั้นร่วมเป็นพยาน รวมถึงมีการตรวจสอบเอกสารทางการแพทย์ของผู้ชุมนุม 18 คนที่ต้องเข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บในโรงพยาบาลมาเป็นข้อมูลประกอบด้วย

แอมเนสตี้กล่าวว่า ทางองค์กรได้ส่งรายงานฉบับนี้ไปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติฮ่องกงตั้งแต่วันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวจากทางตำรวจออกมา ขณะเดียวกันก็มีการสอบถามไปยังตำรวจอีกครั้งเมื่อวานนี้และได้รับคำตอบกลับมาว่าตำรวจยังไม่มีความเห็นต่อเรื่องนี้

ทั้งนี้ เหตุการณ์ประท้วงในฮ่องกงซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากการประท้วงต่อต้านร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ ก่อนจะลุกลามเป็นสู่การเรียกร้องประชาธิปไตยให้ฮ่องกงที่ยืดเยื้อมายาวนานยังคงทวีความรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยผู้ประท้วงได้จุดไฟ รวมถึงขว้างปาก้อนหินและระเบิดเข้าใส่ตำรวจ ทั้งยังบุกทำลายสถานีรถไฟฟ้า (MTR) หลายแห่ง ขณะที่ตำรวจได้ใช้แก๊สน้ำตาและฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วง