ลุ้นแผนกดดันจีนของ“โจชัว หว่อง”

ลุ้นแผนกดดันจีนของ“โจชัว หว่อง”

นายชาน บอกด้วยว่า ไม่มีใครโง่เขลาพอที่จะคิดว่าการประท้วงที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นจะสลายตัวไปในไม่ช้านี้ และเขากังวลว่า สถานการณ์ดังกล่าวอาจจะลากยาวต่อไปอีกระยะหนึ่ง

โจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในฮ่องกงยังคงเดินสายขอเสียงสนับสนุนจากชาติตะวันตกและให้ช่วยกดดันรัฐบาลจีนให้มอบประชาธิปไตยแก่ชาวฮ่องกงอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ล่าสุด การเคลื่อนไหวของโจชัว หว่องและพลพรรค ทำให้สภาคองเกรสของสหรัฐ ขู่ว่าจะเปลี่ยนสถานะการค้าพิเศษกับฮ่องกง โดยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐ กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาตัวบทกฎหมายใหม่ เพื่อประเมินว่า ฮ่องกงเป็นอิสระจากรัฐบาลจีนเพียงพอหรือไม่ในการดำรงสถานะการค้าพิเศษกับสหรัฐ

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการส่งสัญญาณว่า สหรัฐอาจเปลี่ยนสถานะทางการค้าพิเศษของฮ่องกง เพื่อกดดันให้รัฐบาลจีนเลิกคุกคามกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง

สถานะการค้าพิเศษของฮ่องกงนั้นถูกหยิบมาเป็นเครื่องมือกดดันรัฐบาลจีน หลังจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงเดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน เพื่อขอเสียงสนับสนุนการต่อต้านรัฐบาลจีน โดยกลุ่มนักเคลื่อนไหวมองว่า รัฐบาลจีนตักตวงผลประโยชน์จากสถานะการค้าพิเศษระหว่างฮ่องกงกับสหรัฐ และขอให้สหรัฐจัดการกับเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม เส้นทางของร่างกฎหมายดังกล่าวยังอีกยาวไกล เพราะแม้จะผ่านการอนุมัติของคุณกรรมาธิการทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาแล้ว ยังต้องผ่านการอภิปรายและลงมติโดยที่ประชุมทั้งสองสภาแบบเต็มคณะอีก แต่ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะลงนามรับรองร่างกฎหมายหรือไม่ ซึ่งมีสาระสำคัญรวมถึงการคว่ำบาตร “บุคคลใดก็ตาม” ในคณะผู้บริหารฮ่องกงและรัฐบาลปักกิ่ง ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนในฮ่องกง และรัฐบาลทรัมป์ มีข้อขัดแย้งอย่างหนักและยืดเยื้อกับจีนในเรื่องการค้าด้วย

ในส่วนของสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตัน ยังคงสงวนท่าทีต่อการเดินทางมายังสหรัฐของหว่องและคณะในครั้งนี้

แต่รัฐบาลสหรัฐ ยังไม่ได้ออกมาแสดงจุดยืนเกี่ยวกับสถานะพิเศษของฮ่องกง ขณะที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ ประกาศว่า สหรัฐและจีนจะจัดการเจรจาการค้าในระดับรัฐมนตรีช่วยในวันพฤหัสบดี(19ก.ย.)ตามเวลาท้องถิ่นหลังจากที่ทั้งสองประเทศยุติการทำสงครามการค้าระหว่างกัน ซึ่งการเจรจาครั้งนี้จะเกิดขึ้นก่อนการประชุมระดับรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศ ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงต้นเดือนต.ค.

ขณะที่ ที่ปรึกษาระดับสูงของนางแคร์รี หล่ำ ผู้นำฮ่องกงบอกว่า รัฐบาลของฮ่องกงไม่เห็นประโยชน์ใดๆในการยอมรับข้อเรียกร้องมากขึ้นจากกลุ่มผู้ประท้วง และการประท้วงที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ก็ไม่มีแนวโน้มที่จะยุติลงในเร็วๆ นี้

นายเบอร์นาร์ด ชาน ผู้อำนวยการสภาบริหารของฮ่องกง กล่าวว่า ผู้ประท้วงหัวรุนแรงซึ่งบางคนลอบวางระเบิดน้ำมันเบนซินที่สถานีตำรวจและสถานีรถไฟใต้ดินที่ถูกทำลายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จะไม่ยอมยุติการประท้วง แม้ว่ารัฐบาลจะตอบสนองทุกความต้องการของพวกเขาแล้วก็ตาม ขณะที่ผู้ประท้วงในระดับที่ไม่รุนแรงจำนวนมากขึ้น อาจได้รับอิทธิพลจากการเคลื่อนไหวเพื่อให้แก้ไขความไม่เท่าเทียมทางสังคม พร้อมกับระบุว่า ผู้ประท้วงหัวรุนแรง ไม่มีแนวโน้มที่จะยุติการประท้วง

นายชาน บอกด้วยว่า ไม่มีใครโง่เขลาพอที่จะคิดว่าการประท้วงที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นจะสลายตัวไปในไม่ช้านี้ และเขากังวลว่า สถานการณ์ดังกล่าวอาจจะลากยาวต่อไปอีกระยะหนึ่ง

มาลุ้นกันว่า พลังมวลชนที่ต้องการประชาธิปไตยของโจชัว หว่องและพันธมิตรจะต่อกรกับอิทธิพลล้นฟ้าของพญามังกรจีนได้หรือไม่