“ศุภชัย” ดันดิจิทัลพาร์ค ฮับนวัตกรรมอาเซียน

“ศุภชัย” ดันดิจิทัลพาร์ค ฮับนวัตกรรมอาเซียน

หวังดึงสตาร์ทอัพทั่วโลก-ร่วมขับเคลื่อนดิจิทัลประเทศ

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ และประธานกรรมการ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวภายในงานสัมมนา เทคโนโลยี T.O.P 2019-Togetherness of Possibilities 2019 จัดขึ้นที่ทรูดิจิทัล พาร์ค ศูนย์กลางนวัตกรรมดิจิทัล โดยระบุว่า ทรูดิจิทัลพาร์ค เกิดขึ้นภายใต้นโยบายภาครัฐที่จะผลักดันย่านปุณณวิถี ให้เป็นต้นแบบนวัตกรรมดิจิทัล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามภาครัฐที่จะส่งเสริมให้เกิดเป็นเศรษฐกิจด้านดิจิทัลเทคโนโลยี โดยการสร้างพื้นที่นวัตกรรม เพื่อสร้างศักยภาพการแข่งขันให้กับประเทศไทย ตลอดจนผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการสร้างนวัตกรรมโดยเฉพาะด้านดิจิทัลเทคโนโลยี

“ทรูดิจิทัลพาร์คเกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน โดยเริ่มเปิดให้สตาร์ทอัพเข้ามาทำงานเมื่อต้นปี 2562 ภายใต้นโยบายของภาครัฐ ที่จะส่งเสริมสตาร์ทอัพไทย ตลอดจนสตาร์ทอัพในภูมิภาคและระดับโลกให้เข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสร้างนวัตกรรม"

นายศุภชัย กล่าวว่า โลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าอุตสาหกรรมใดก็ได้รับผลกระทบจากการถูกดิสรัปชั่น รวมถึงระบบเศรษฐกิจด้วย จึงต้องเร่งปรับตัวซึ่งเรื่องดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นเป็นเรื่องใหญ่สำหรับทุกองค์กร หวังว่าทรูดิจิทัลพาร์คจะเป็นส่วนหนึ่งขับเคลื่อนดิจิทัลทรานฟอร์เมชั่นให้กับประเทศ

การดิสรัปชั่นยังเกิดขึ้นกับระบบสังคม เนื่องจากการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล สื่อโซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดการเรียนรู้รูปแบบใหม่ รวมถึงระบบการศึกษาก็นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาปรับใช้สร้างคุณค่าให้องค์กรและสถาบันการศึกษา ทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง แม้แต่มหาวิทยาลัยทีใหญ่ที่สุดในโลก ขณะนี้ก็เกิดขึ้นบนออนไลน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรของทรูดิจิทัลพาร์คด้วย โดยปัจจุบันมีนักเรียนเกือบ 200,000 คน และคาดว่า ในเร็วๆ นี้จะเพิ่มเป็นล้านคน

ขณะที่ด้านสิ่งแวดล้อม เป็นอีกเรื่องที่ฝากความหวังไว้อย่างมากกับดิจิทัลเทคโนโลยี ที่จะทำให้เกิดการจัดการการบริโภค จัดการของเสียให้เกิดประสิทธิภาพ ให้ของเสียลดลงเข้าสู่ยุคเซอร์คูลาร์ เทคโนโลยี จึงต้องฝากความหวังไว้กับคนรุ่นใหม่กับสตาร์ทอัพ ผู้มีความคิดใหม่ๆ มีความมุ่งมั่น ศรัทธาที่จะเปลี่ยนแปลงโลก ไม่ว่าจะเป็นในด้านสังคมเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ซึ่งหวังว่า ทรูดิจิทัลพาร์ค จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนความตั้งใจดี และความฝันอันยิ่งใหญ่นี้

“ทรูดิจิทัลพาร์คเฟสแรก เปิดให้บริการแล้ว 50,000 ตารางเมตร รองรับสตาร์ทอัพได้ 10,000 ราย ส่วนเฟสสอง คาดว่าจะเปิดให้บริการอีก 50,000 ตารางเมตร ต้นปี 2564 รองรับสตาร์ทอัพได้อีก 10,000 ราย รวมถึงรองรับลูกค้าระบบสมาชิกอีก 5,000 ราย รวมสองเฟสรองรับสตาร์ทอัพ 25,000 ราย พื้นที่รองรับ 100,000 ตารางเมตร ซึ่งหวังว่าจะเกิดความเชื่อมโยงกับสถาบันการศึกษาทั้งในประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลกในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้ทั้งระบบเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมเกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดให้กับประเทศไทย และระดับภูมิภาค และระดับโลกในอีกไม่นานนี้” นายศุภชัย กล่าว

ทั้งนี้ ทรู ดิจิทัล พาร์ค มุ่งเน้นสร้างสตาร์ทอัพ อีโคซิสเต็มส์ ภายใต้บรรยากาศที่เอื้อต่อการเชื่อมต่อ ถ่ายเท และหลอมรวมองค์ความรู้ ให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือขยายและต่อยอดได้ไม่รู้จบ ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมดิจิทัลของไทยที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า รัฐบาลต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการสร้างนวัตกรรมในภูมิภาคอาเซียน แม้มีคนสบประมาทว่าจะทำได้อย่างไร รัฐบาลต้องผลักดันให้ประชาชนเข้าถึงเทคโนโลยีมากที่สุดไม่ใช่แค่สตาร์ทอัพ แต่ต้องเป็นคนทุกกลุ่ม ดังนั้นการสร้างทรูดิจิทัลพาร์ค โดยใช้เวลา 4 ปี ต้องมีการวางแผนที่ดี เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีที่ทุกภาคส่วนร่วมผลักดันให้เกิดสังคมดิจิทัล