สทนช.เตือนแหล่งน้ำขนาดใหญ่-กลาง 120 แห่งน้ำเกิน 80%

สทนช.เตือนแหล่งน้ำขนาดใหญ่-กลาง 120 แห่งน้ำเกิน 80%

"ผอ.ศูนย์เฉพาะกิจ" ประกาศเตือน ฉบับ 8 รับมือพื้นที่เสี่ยงน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง 6 จังหวัดรับมือ ขณะที่แหล่งน้ำขนาดใหญ่-กลาง 120 แห่งน้ำเกิน 80%

นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการน้ำเฉพาะกิจ ออกประกาศ ฉบับที่ 8/2562 เรื่อง เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และแหล่งน้ำที่มีปริมาณน้ำมาก ตามที่ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 19-21 กันยายน 2562 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นมาพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศกัมพูชา ส่งผลให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 22-23 กันยายน 2562 ร่องมรสุมพาดจะเลื่อนลงผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มมากขึ้น ศูนย์อำนวยการน้ำเฉพาะกิจ ได้ติดตามสภาพภูมิอากาศ การคาดหมายลักษณะอากาศ ปริมาณน้ำในลำน้ำและแหล่งน้ำ สามารถประเมินพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัย ซึ่งมีพื้นที่เสี่ยงเกิดน้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง บริเวณ จ.จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และ จ.ระนอง

 

นอกจากนี้ยังแหล่งน้ำที่มีความเสี่ยงปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นเกินเกณฑ์ระดับน้ำควบคุมสูงสุด (Upper Rule Curve : URC) และมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุ รวม 12 แห่ง ประกอบด้วย แหล่งน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 7 แห่ง (หนองหาร จ.สกลนคร เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ เขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกร จ.กาญจนบุรี เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และเขื่อนปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์) แหล่งน้ำขนาดกลาง จำนวน 113 แห่ง (ภาคเหนือ 9 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 90 แห่ง ภาคตะวันออก 12 แห่ง และภาคใต้ 2 แห่ง)

ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยให้พิจารณาความเหมาะสมการระบายน้ำในแหล่งน้ำ มิให้ส่งผลกระทบกับพื้นที่ท้ายแหล่งน้ำ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์น้ำไหลล้นข้ามซึ่งเสี่ยงต่อการวิบัติ อันจะส่งผลกระทบทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ชุมชนและพื้นที่การเกษตรบริเวณด้านท้ายน้ำ และการเตรียมความพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ ในการป้องกัน แก้ไข ช่วยเหลือต่อประชาชน รวมถึงประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบให้รับทราบต่อไป