‘ธุรกิจประกัน’จ่อหั่นค่าคอมมิชชั่น 

‘ธุรกิจประกัน’จ่อหั่นค่าคอมมิชชั่น 

“สมาคมประกันวินาศภัย” เผยธุรกิจประกันแข่งขันรุนแรง จ่ายค่าคอมมิชชั่นทะลุเพดาน18% ดันต้นทุนพุ่งกว่าเท่าตัว เป็นเหตุให้ขาดทุนตลอด3ปี ชี้ถึงเวลาต้องทบทวนลดค่าคอมฯ เผยค่ายกลางและใหญ่เริ่มปรับลดแล้ว 

นายกี่เดช อนันต์ศิริประภา ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมประกันวินาศภัยถึงจุดต้องทบทวนค่าคอมมิชชั่น (จ่ายให้ธนาคารพาณิชย์, โบรกเกอร์, ตัวแทน/นายหน้า) เนื่องจากยังพบว่า บริษัทประกันส่วนใหญ่จ่ายค่าคอมมิชชั่นมากกว่าเพดานที่กำหนดไว้เกิน18% ค่อนข้างมาก ทำให้มีค่าใช้จ่ายการรับประกันภัยภาพรวม (Combined Ratio) สูงขึ้นและใกล้ขาดทุน โดยในปี2561อยู่ที่99.50% ขณะที่การรับประกันภัยรถยนต์ขาดทุนแล้วอยู่ที่106.70%

โดยหากบริษัทไม่ปรับตัว  ยังมุ่งการแข่งขันกันมากเกินไป ไม่มีการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายการรับประกันภัยที่เหมาะสมกับบริษัทแล้ว จะยิ่งทำให้บริษัทประกันขาดทุนเพิ่มขึ้นไปอีก โดยเฉพาะการขาดทุนจากประกันภัยรถยนต์ที่มีการขาดทุนต่อเนื่องตลอด3ปีที่ผ่านมา ในขณะที่ค่าเคลมสินไหมทดแทนปรับเพิ่มขึ้นทั้งจากค่าแรง ค่าอะไหล่ที่ปรับเพิ่มขึ้นทุกปี อีกทั้งการปรับค่าขาดผลประโยชน์ จากการใช้รถ ที่เริ่มเมื่อ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา เป็นส่วนหนึ่งให้ค่าสินไหมทดแทนเพิ่มขึ้นด้วย

ทั้งนี้ บริษัทประกันขนาดกลางและใหญ่ ได้ทบทวนปรับลดค่าคอมมิชชั่นลงมาบ้างแล้ว เชื่อว่าหากสามารถปรับลดค่าคอมมิชชั่นไม่ให้เกินเพดาน หรือเทียบเท่ามาเลเซียที่อยู่12-15% หรือยังจ่ายมากกว่าเพดาน3-4% บริษัทจะไม่ขาดทุนหรืออยู่รอดได้  ส่วนบริษัทขนาดเล็ก ที่ยังไม่ปรับตัวเรื่องค่าคอมมิชชั่น มองว่าอาจแบกรับภาระค่าใช้จ่ายการรับประกันภัยภาพรวมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะตอนนี้มีค่าใช่จ่ายส่วนอื่นๆที่มากกว่าบริษัทขนาดกลางและใหญ่อยู่แล้ว เช่น บริษัทขนาดเล็กยังมีค่าบริหารจัดการที่ระดับ15-20% สูงกว่าบริษัทขนาดใหญ่อยู่ที่ระดับ 10-12%

เขากล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางบริการจัดการค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยภาพรวม มีแนวทางป้องกันได้หลายวิธี เช่น ปีแรกขับรถดีได้ส่วนลดเบี้ย โนเคลมโบนัส หรือมีประวัติขับรถไม่ดีก็ปรับขึ้นเบี้ย อยู่ที่ว่าบริษัทจะนำมาใช้หรือไม่ ขณะที่บริษัทสมาชิกต้องช่วยกันตรวจสอบกันเองมากขึ้น หากใครมีฐานลูกค้าดีก็ต้องพยายามรักษาลูกค้ากลุ่มนี้ไว้ให้นานที่สุด

"เราเป็นห่วงตลาด ซึ่งที่ผ่านมาสมาคมฯ พยายามให้ข้อมูลกับบริษัทสมาชิกทุกรายมาตลอดเพื่อปรับการบริหารจัดการ แต่ตลาดก็ยังแข่งขันสูง มองแค่เพียงการเติบโตเป็นอันดับหนึ่งฉะนั้น ตอนนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่จำเป็นให้ต้องบูรณาการกัน ซึ่งอาจให้บริษัทประกันหารือร่วมกันในการปรับค่าคอมมิชชั่นเพื่อควบคุมต้นทุนการบริหารจัดการ โดยที่บริษัทประกันขนาดเล็กยังสามารถแข่งขันได้”