3 ชาติเอเชียพร้อมใช้น้ำมันสำรองเชิงยุทธศาสตร์รับมือน้ำมันขาด

3 ชาติเอเชียพร้อมใช้น้ำมันสำรองเชิงยุทธศาสตร์รับมือน้ำมันขาด

3 ชาติเอเชีย พร้อมใช้น้ำมันสำรองเชิงยุทธศาสตร์รับมือปัญหาปริมาณน้ำมันดิบมีไม่เพียงพอกับความต้องการ หลังผลผลิตน้ำมันดิบของซาอุฯลดหลังโรงกลั่นสองแห่งถูกโจมตีเสียหาย

ประเทศที่นำเข้าน้ำมันรายใหญ่จากซาอุดิอาระเบีย อย่างจีน และเกาหลีใต้ มีมาตรการรองรับผลกระทบจากการลดกำลังการผลิตน้่ำมันดิบของซาอุฯ โดยจีน มีปริมาณน้ำมันดิบสำรองฉุกเฉินประมาณ 325 ล้านบาร์เรล เพียงพอที่จะนำมาใช้ได้ 33 วัน ส่วนเกาหลีใต้ คาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบในระยะสั้น แต่ก็ไม่ได้ประมาท รัฐบาลโซลกำลังพิจารณาที่จะใช้น้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ที่มีอยู่ 96 ล้านบาร์เรล เท่ากับมีน้ำมันดิบใช้ 90 วัน หากการจัดหาน้ำมันดิบของประเทศเกิดปัญหา แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำมันเบนซิน ดีเซล และแนปธา

ขณะที่ ญี่ปุ่น อาจพิจารณาปล่อยน้ำมันจากคลังสำรองป้อนตลาด ให้มั่นใจว่ามีปริมาณน้ำมันเพียงพอหลังจากเกิดเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย โดยนายอิชชู ซูงาวาระ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์ในวันนี้ (17 ก.ย.)ว่า ญี่ปุ่นอาจพิจารณาปล่อยน้ำมันจากคลังสำรอง ถ้าสถานการณ์มีความจำเป็นหลังเกิดเหตุโดรนโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งของบริษัทซาอุดี อารัมโก ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติในเขตอับกออิกและคูราอิสด้วยโดรนส่งผลให้กำลังการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียลดลงครึ่งหนึ่ง

“ญี่ปุ่นอาจพิจารณาปล่อยน้ำมันจากคลังสำรอง รวมถึงพิจารณามาตรการอื่นๆ ที่จำเป็น เพื่อให้มั่นใจว่ามีปริมาณน้ำมันเพียงพอ” รมว.เศรษฐกิจฯญี่ปุ่นกล่าว

ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นออกเปิดเผยว่า มีน้ำมันสำรองเพียงพอที่จะใช้ในประเทศได้นานกว่า 230 วัน และทางกระทรวงอุตสาหกรรมจะให้ความร่วมมือกับทบวงพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ และประเทศอื่นๆ เพื่อปล่อยน้ำมันจากคลังสำรองป้อนตลาด

การเคลื่อนไหวของสามชาติเอเชียมีขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์ (16ก.ย.)ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ มีคำสั่งให้ปล่อยน้ำมันจากสำรองทางยุทธศาสตร์ (เอสพีอาร์) หลังจากเกิดเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในซาอุดีอาระเบียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันสหรัฐมีน้ำมันสำรองเชิงยุทธศาสตร์ในปริมาณ 630 ล้านบาร์เรล