“ส่งออก”โอกาสในอุปสรรค

            นพดล ทองมี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นิวยอร์ก สหรัฐ (ทูตพาณิชย์)  เผยถึงประเทศที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการส่งออกสินค้าได้มากขึ้นภายใต้สงครามการค้า คือ  เวียดนาม ได้แก่ ชิ้นส่วนประกอบโทรศัพท์ เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ประมวลผลข้อมูลอัตโนมัติ ไต้หวัน ได้แก่ ชิ้นส่วนประกอบเครื่องพิมพ์ดีด อุปกรณ์สำนักงาน ชิ้นส่วนโทรศัพท์ ,ชิลี ได้แก่ สินแร่ทองแดง ถั่วเหลือง และมาเลเซีย ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า อุปกรณ์เซมิคอนดัคเตอร์,อาร์เจนติน่า ได้แก่ ถั่วเหลือง

             “หากสงครามการค้ายังคงยืดเยื้อต่อไป สหรัฐไม่นำเข้าสินค้าจีน ก็ต้องนำเข้าจากประเทศอื่น ซึ่งอาจจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทย แต่ผู้ประกอบการไทยต้องเก่งและดิ้นรนแข่งขันกับคู่แข่ง”

              ทั้งนี้ประเมินว่า สหรัฐ พยายามสร้างความไม่แน่นอนและบั่นทอนความเชื่อมั่นในจีนอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงห่วงโซ่การผลิตสินค้า ของโลกออกจากจีน ดังนั้นเราอาจจะเห็นการค้าและการลงทุนพลิกผันมากขึ้น

ด้านฝากฝั่งจีน ที่เป็นคู่กรณีมีมุมมองต่อสงครามการค้าโดยย้ำว่าจีนยังคงเป็นตลาดการส่งออกที่น่าสนใจแต่ต้องปรับแผนการทำงานบางส่วน

               จีรนันท์ หิรัญญสัมฤทธิ์ ทูตพาณิชย์ นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน กล่าวว่า จีนมีประชากรจำนวนมาก การบริโภคภายในประเทศสูง จึงเป็นโอกาสของสินค้าที่ไทยจะเข้าเจาะตลาดจีน

ทั้งนี้ จีนมีหลายมณฑทลแต่ละมณฑลก็มีประชากรมาก บางมณฑลก็เริ่มมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้น จึงทำให้ไทยสามารถที่จะเจาะตลาดเมืองรองเป็นรายมณฑลได้

                ส่วนความกังวลในความเข้มงวดการนำเข้าผลไม้ไทยนั้นทางจีนก็มีความเข้มงวดในด้านมาตราฐานสินค้าอยู่แล้ว ซึ่งผู้ประกอบการไทยก็ทราบดีและปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติของจีน ซึ่งไม่ได้เป็นอุปสรรคของสินค้าไทยมากนัก

               การส่งออกของไทยช่วงที่ผ่านมาติดลบอย่างน่าใจหาย จนทำให้หลายสำนัก เช่น สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และแม้แต่สำนักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง ประเมินว่าปีนี้การจะติดลบอยู่ที่ 1% แต่กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหน่วยงานผู้ผลักดันการส่งออกโดยตรงยังคงยืนเป้าหมายการส่งออกไว้ที่ 3% ซึ่งไม่กี่เดือนที่เหลือต่อจากนี้

              ทูตพาณิชย์ในฐานะทัพหน้าต่างประเมินว่า“โอกาสยังมี” ทัพหลังอย่างภาคการผลิตก็ต้องเร่งพัฒนาศักยภาพเพื่อทำให้ “อุปสรรค กลายเป็นโอกาส” ภายใต้เงื่อนร่วมด้วยช่วยกัน