‘เฟซบุ๊ค’ยันบริการโฆษณาโปร่งใส ไม่มีการดักฟัง-ขายข้อมูลผู้ใช้งาน

‘เฟซบุ๊ค’ยันบริการโฆษณาโปร่งใส ไม่มีการดักฟัง-ขายข้อมูลผู้ใช้งาน

“เฟซบุ๊ค” ยันให้บริการโฆษณาด้วยความโปร่งใส่ ไม่มีการขายข้อมูล ไม่เคยดักฟัง แนะเคล็ดลับเพิ่มผลสำเร็จโฆษณา ต้องวางเป้าหมายชัดเจน เรียนรู้การใช้เครื่องให้เต็มประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน

นายเจมส์ ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เฟซบุ๊ค กล่าวว่า หลักการออกแบบและให้บริการโฆษณาของเฟซบุ๊คให้ความสำคัญกับผู้ใช้เป็นอันดับแรก ขอยืนยันว่าจะไม่มีการขายข้อมูลของผู้ใช้งานให้กับผู้อื่นอย่างแน่นอน

สำหรับข้อกังวลเรื่องการแอบฟังการสนทนา ขอยืนยันว่าไม่เคยทำเช่นนั้น การที่ผู้ใช้เห็นโฆษณาที่พูดคุยบนเฟซบุ๊คอาจมีที่มาจากหลายสาเหตุ หากเกิดข้อสงสัยว่าทำไมถึงเห็นโฆษณาดังกล่าวสามารถคลิกที่มุมขวาของตัวโฆษณานั้นๆ และกดเข้าไปที่ “ทำไมฉันจึงเห็นโฆษณา” หรือ “Why am I seeing this ad” ได้

นอกจากนี้ ผู้ใช้สามารถควบคุมได้เองว่าต้องการให้โฆษณาประเภทใดปรากฏบนแพลตฟอร์มและทราบได้อย่างชัดเจนว่าใครเป็นเจ้าของโฆษณาที่ปรากฏอยู่ หรือสามารถดูโฆษณาอื่นๆ จากแบรนด์เดียวกันได้ มากกว่านั้นมีมาตรฐานที่เคร่งครัดเพื่อให้มั่นใจว่าโฆษณาต่างๆ ปลอดภัยและถูกหลักจรรยาบรรณ สามารถตอบโจทย์ธุรกิจได้ทุกขนาดโดยไม่จำกัดเรื่องงบประมาณ ขณะเดียวกันมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

“ผมขอยืนยันว่า เฟซบุ๊คไม่เคยขายข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานให้กับนักโฆษณา เรามุ่งดำเนินงานโดยเน้นการป้องกันความลับของข้อมูล ความโปร่งใส ผู้ใช้มีความสามารถในการควบคุม จัดการการมองเห็น จุดมุ่งหมายของบริษัทเน้นทำให้ทั้งผู้ประกอบการและผู้ใช้งานได้เห็นสิ่งที่เหมาะสมและปลอดภัย”

อย่างไรก็ดี 3 หลักการสำคัญที่จะช่วยทำให้นักโฆษณาประสบความสำเร็จบนเฟซบุ๊คประกอบด้วย 1.มุ่งเน้นวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของธุรกิจ โดยเลือกวัตถุประสงค์ของแคมเปญที่สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของธุรกิจ ซึ่งจะช่วยให้สามารถเชื่อมต่อกับผู้คนที่มีส่วนผลักดันให้ธุรกิจเติบโต

ขณะที่ 2.เรียนรู้การใช้เครื่องมือต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องด้วยระบบเผยแพร่โฆษณาของเฟซบุ๊คสามารถทำงานได้ครอบคลุมตั้งแต่เริ่มแคมเปญ และจะเรียนรู้พร้อมปรับเปลี่ยนจากพฤติกรรมการตอบสนองของผู้ใช้งานเพื่อเพิ่มโอกาสให้โฆษณานั้นๆ ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

3.สร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับการคลิกดูโฆษณา ประสบการณ์ที่ดีและสม่ำเสมอของผู้บริโภคคือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คนที่สนใจโฆษณากดดูข้อมูลต่อ ดังนั้นประสบการณ์ที่มีการออกแบบเนื้อหาให้เหมาะสมกับประสบการณ์ของผู้ใช้ เช่น การใช้โฆษณาแบบ Leads Ads หรือการส่งข้อความทันที ถือเป็นตัวเลือกที่ดีในการช่วยลดการติดขัดที่อาจเกิดขึ้นจากการที่ลูกค้าต้องออกจากหน้าแอพพลิเคชั่น

เขากล่าวว่า ไตรมาสที่ 4 เป็นช่วงที่ภาคธุรกิจมีการแข่งขันรุนแรง ดังนั้นหากต้องการทำให้การตลาดมีประสิทธิผลสูงสุดขอให้โฟกัสที่เป้าหมายธุรกิจและผลตอบรับที่ได้รับกลับคืนมา ไม่ใช่แค่ยอดการคลิก

เฟซบุ๊คพบว่า ความท้าทายของการใช้บริการโฆษณาในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันออกไป ในประเทศไทยเทรนด์ที่น่าสนใจเช่น การพูดคุย ทักแชทกับธุรกิจก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ทั้งได้เห็นว่าการซื้อขายผ่านการถ่ายทอดสดได้รับความนิยมอย่างมาก

สำหรับวิธีการขึ้นโฆษณาบนเฟซบุ๊ค ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนคือ การสร้างสรรค์โฆษณา ขั้นตอนการตรวจสอบ การเผยแพร่โฆษณา และรายงานสรุปผล โฆษณาที่จะดึงดูดความสนใจได้อย่างมากคือโฆษณาแนวตั้ง และหากจะเพิ่มผลสำเร็จควรไปให้ครบทุกช่องทาง รวมไปถึง “อินสตาแกรม” หรือ ไอจี ซึ่งปัจจุบันพบว่าฐานผู้ใช้งานกว่า 80% ติดตามแบรนด์ ผู้ใช้กว่า 370 ล้านรายเข้าเยี่ยมชมบัญชีของธุรกิจทุกวัน

อีกประเด็นที่น่าสนใจ การใช้ไอจีสตอรี่เติบโตแบบก้าวกระโดด จากเดือนต.ค.ปี 2559 ที่มีจำนวน 100 ล้านสตอรี่ต่อวัน ล่าสุดเมื่อเดือนม.ค.2562 เพิ่มขึ้นถึงกว่า 500 ล้านสตอรี่ต่อวัน ผลสำรวจระบุด้วยว่า ผู้คน 83% ค้นพบผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ บนอินสตาแกรม 81% ใช้ค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์หรือบริการ และ 80% ใช้ช่วยตัดสินใจในการบริโภคผลิตภัณฑ์หรือบริการ

ปัจจุบัน ทั่วโลกมีผู้ใช้งานเฟซบุ๊คเป็นประจำ 2.3 พันล้านราย ผู้ใช้งานอินสตาแกรม 1 พันล้านราย ผู้ใช้ Audience Network 1 ล้านราย มีนักโฆษณาเข้ามาใช้งานไม่น้อยกว่า 7 ล้านรายทุกวัน