"ไวซ์ไซท์"รุกบริการใหม่ รับอินฟลูเอ็นเซอร์มาแรง

นายกล้า ตั้งสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากแนวโน้มแบรนด์สินค้าและบริการหันมาใช้ผู้ทรงอิทธิพลหรือผู้นำทางความคิด(อินฟลูเอ็นเซอร์)ในการทำตลาดมากขึ้นถึง 63% เนื่องจากผู้บริโภคมองหาการรีวิว คอมเมนต์ และประสบการณ์เกี่ยวกับสินค้าที่เป็นกลางมากขึ้น ไม่ใช่แค่รับข้อมูลจากแบรนด์เพียงฝ่ายเดียว และการลงทุนใช้อินฟลูเอ็นเซอร์ในการทำตลาด เช่น ลงทุน 1 ดอลลาร์ จะได้พื้นที่สื่อโดยไม่ต้องลงทุน (earn media value) ประมาณ 5.2 ดอลลาร์ สะท้อนความคุ้มค่า ขณะที่แนวโน้มตลาดอินฟลูเอ็นเซอร์ในโลกปีหน้าคาดการณ์จะอยู่ที่ 1 หมื่นล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ ประเทศไทยก็เป็นไปตามเทรนด์โลก เมื่อสินค้าและบริการใช้อินฟลูเอ็นเซอร์ในการทำตลาดและสร้างแบรนด์มากขึ้น แต่ที่ผ่านมาแบรนด์ยังพิจารณาและติดกับดักแค่ยอดผู้ติดตาม (Follower)ของอินฟลูเอ็นเซอร์ โดยไม่มองผลลัพธ์ด้านเอ็นเกจเมนต์เท่าที่ควร รวมถึงปัจจุบันอินฟลูเอ็นเซอร์ปั่นยอดผู้ติดตาม ทำให้การเลือกใช้อินฟลูเอ็นเซอร์ไม่มีประสิทธิภาพ

บริษัทจึงนำเสนอรายงานเกี่ยวกับประสิทธิภาพของอินฟลูเอ็นเซอร์ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยดึงคนดังบนโลกออนไลน์ที่เป็นตัวท็อป 1,515 ราย ซึ่งมียอดผู้ติดตามไม่ต่ำกว่า 4-5 หมื่นราย มียอดการโพสต์คอนเทนท์รวม 685,194 โพสต์ จำนวน 3,221 บัญชี ผ่าน 4 แพลตฟอร์ม ได้แก่ เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม และยูทูป ใน 13 กลุ่ม(Cluster) เช่น ท่องเที่ยว อาหาร ไลฟ์สไตล์ ความงามและแฟชั่น เป็นต้น มีเอ็นเกจเมนต์กว่า 1,500 ล้านเอ็นเกจเมนต์ มาให้บริการแก่ลูกค้า ในการตัดสินใช้เลือกใช้อินฟลูเอ็นเซอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าการลงทุนมากขึ้น

นอกจากนี้ การเก็บข้อมูลอินฟลูเอ็นเซอร์กลุ่มต่างๆ ตั้งแต่เม.ย.-มิ.ย.ที่ผ่านมา พบว่า 5 อันดับแรก ที่มียอดเอ็นเกจเมนต์สูง ได้แก่ ไลฟ์สไตล์ 771 ล้านเอ็นเกจเมนต์ เพิ่มขึ้น 5% อาหาร 145 ล้านเอ็นเกจเมนต์ เพิ่ม 31% ความงามและแฟชั่น 129 ล้านเอ็นเกจเมนต์ ลดลง 8% ข่าวออนไลน์ 115 ล้านเอ็นเกจเมนต์ ทรงตัว(Zero growth) และสัตว์เลี้ยง 68 ล้านเอ็นเกจเมนต์ เพิ่ม 62%

“อินฟลูเอ็นเซอร์เป็นเทรนด์โลกที่มาแรง แต่การจะวัดความดังของคนเหล่านี้จะวัดอย่างไร ยังเป็นคำถาม วัดจากมีแฟนคลับติดตามจนห้างแตก แฟนคลับเยอะ หรือคนร่วมงาน วัดจำนวนหรือระดับความสัมพันธ์เหนียวแน่น เมื่อยุคนี้ต้องใช้ข้อมูลหรือดาต้าในการขับเคลื่อนธุรกิจ การมีข้อมูลไม่เพียงพอ ทำให้เราจัดทำรายงานอินฟลูเอ็นเซอร์ เพื่อให้ลูกค้าเลือกลงทุนกับอินฟลูเอ็นเซอร์ได้แม่นยำมากขึ้น และประหยัดเงินจากการใช้อินฟลูเอ็นเซอร์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-กรุงศรีชี้เศรษฐกิจไทยอ่อนแรง โอกาสเข้าสู่ภาวะถดถอยต่ำ หั่นจีดีพีเหลือ2.9%ส่งออกติดลบ2.8%
-เศรษฐกิจไทยหลังวิกฤติปี 2540
-จับตาประกาศจีดีพี เศรษฐกิจไทยไตรมาส2 ชะลอโตแค่2.7%
-อาเซียนจะอยู่อย่างไรในเศรษฐกิจโลกแบบนี้