'บิณฑ์' แจ้งความคนแอบอ้างบัญชีรับบริจาคน้ำท่วม

'บิณฑ์' แจ้งความคนแอบอ้างบัญชีรับบริจาคน้ำท่วม

"บิณฑ์ บันลือฤทธิ์" เข้าแจ้งความคนแอบอ้างบัญชีรับบริจาคน้ำท่วม เตรียมแจกเงินสดอีกกว่า 1 พันครอบครัว

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 62 ที่แมนชั่นริมถนนวารินชำราบ-ศรีสะเกษ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี จุดรวมชุดของหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูของนายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ที่นำสิ่งของมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อหารือแนวทางการช่วยเหลือช่วยบ้านที่ถูกน้ำท่วม พร้อมกับแนวทางการแจกเงินที่ได้รับบริจาคจากประชาชนทั่วประเทศให้ผู้ประสบภัยครอบครัวละ 5,000 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัย

นายบิณฑ์ กล่าวว่า หลังประชุมหารือร่วมกับทีมงาน ระบุการแจกจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยครอบครัวละ 5,000 บาท เพราะเมื่อเริ่มเข้ามาในช่วงแรกมีการนำสิ่งของไปมอบให้กับชาวบ้านไปแล้ว และทราบว่ามีจุดใดที่มีผู้อพยพ แนวทางต่อไปนี้ จะขอให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไปสำรวจรายชื่อผู้เดือดร้อน ที่มีถิ่นที่อยู่และบัตรประจำตัวยืนยันชัดเจน มูลนิธิร่วมกตัญญูก็จะมอบบัตรของมูลนิธิฯให้กับผู้ประสบภัย จึงจะสามารถได้รับเงิน

วันนี้เตรียมนำเงินไปมอบให้กับผู้ประสบภัย 3-4 จุดกว่า 1,000 ครอบครัว โดยการแจกจะแจกให้เป็นรายครอบครัว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตั้งใจแจกให้ครอบครัวละ 1,000 บาท แต่ขณะนี้เงินบริจาคเข้ามาเยอะมากเลยปรับตัวเลขเป็นครอบครัวละ 5,000 บาท โดยยอดบริจาคที่เข้ามาประมาณแปดโมงครึ่งที่ผ่านมา ยอดอยู่ที่กว่า 231 ล้านบาท

หลังน้ำลดชาวบ้านยังคงต้องรับได้รับความช่วยเหลือ เพราะอาจสิ้นเนื้อประดาตัว ยังมีความต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้ามาทดแทนที่เสียหายไป เงินก้อนนี้จะช่วยทดแทนได้เป็นอย่างดี จึงยังไม่ปิดรับการบริจาค หลังจากให้การช่วยเหลือเสร็จสิ้นแล้วมีเหลือจะให้มีการลงมติจะให้นำไปไปใช้อย่างไรบ้าง โดยตนเองจะไม่ยุ่งเกี่ยว

ถามถึงมาตรการตรวจสอบอาจมีคนสวมรอยเข้ามาขอรับเงินแจกด้วยนั้น นายบิณฑ์ กล่าวว่ามีการตรวจสอบตลอด โดยผ่านผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ถ้าพบความผิดปกติก็จะให้ผู้นำชุมชนเข้ามาดูว่าเป็นชาวบ้านถูกน้ำท่วมจริงหรือไม่

สำหรับการคัดเลือกชุมชนที่ถูกน้ำท่วม จะมีเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิเป็นผู้พิจารณา แต่ขณะนี้เริ่มแจกช่วยเหลือชุมชนรอบๆอำเภอเมืองและวารินชำราบก่อน ส่วนอำเภอรอบนอกจะดำเนินการในช่วงต่อไป โดยเงินจำนวนนี้ ต้องถึงมือผู้ประสบภัยทุกครอบครัว ขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจเพื่อให้เกิดความแน่ใจ แม้จะต้องขยายเวลาทำภารกิจเพิ่มขึ้นอีก ก็จะอยู่จนเสร็จเรียบร้อย

นอกจากช่วยเหลือพี่น้องชาวจังหวัดอุบลราชธานี เงินก้อนนี้ยังคงมีเหลือ ก็จะนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่จังหวัดยโสธร ร้อยเอ็ด ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านได้รับการประสานจากทางโฆษกรัฐบาล ให้เข้าร่วมรับโทรศัพท์รายการพิเศษของทางรัฐบาลเพื่อรับบริจาคช่วยเหลือผู้ประภัย แต่เนื่องจากตนเองต้องอยู่ช่วยผู้ประสบภัยที่อุบลจึงจะมอบนายเอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ เข้าร่วมรับโทรศัพท์รับเงินบริจาคกับนายกรัฐมนตรี

ที่สำคัญไม่มีเจตนาทำอะไรข้ามหน้าข้ามตารัฐบาล แต่ทำด้วยใจบริสุทธิ์ แต่เมื่อมาช่วยชาวบ้านเหมือนความช่วยเหลือยังไม่ทั่วถึง เพราะชาวบ้านก็ได้รับแต่ข้าวสารอาหารแห้ง จึงคิดว่าน่าจะเอาเงินไปช่วยเหลือด้วย ก็เลยเบิกเงินส่วนตัวไปช่วยจำนวน 1 ล้านบาท เมื่อชาวบ้านได้รับเงินก็รู้สึกเขามีความสุข เหมือนที่นายรัฐมนตรีแจกเงินให้ไปเที่ยวคนละ 1,000 บาท ก็น่าจะมาแจกช่วยชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมด้วย ซึ่งตนคิดเพียงแค่นั้นจริงๆ

ต่อมาเวลา 11.00 น. นายบิณฑ์ ได้เดินทางไปเบิกเงินสดจำนวน 5 ล้าน ก่อนจะเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานกรณีมีมิจฉาชีพนำโพสต์รับบริจาคที่โพสต์ไว้ไปตัดต่อเปลี่ยนเลขบัญชีใหม่เป็นของหญิงสาวในจังหวัดลพบุรี ที่ สภ.วารินชำราบ โดยมี พ.ต.อ.ทวี กิติวิริยกุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวารินชำราบ พ.ต.ท.ครองชัย ตาลประดิษฐ์ รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.วารินชำราบ พันโทพิชิต วันทา ที่ปรึกษาผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 22 คอยอำนวยความสะดวก

สำหรับการดำเนินการแจ้งความขณะนี้เป็นการแจ้งความดำเนินคดี 2 บัญชีธนาคารซึ่งในส่วนของตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจเองได้ทราบตัวแล้วอยู่ในระหว่าที่ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่เข้าติดตามตัวมาสอบสวนข้อเท็จจริง ด้านนายบิณฑ์ เองกล่าวว่าเบื้องต้นทีมงานได้ทราบตัวและเจอตัวเจ้าของบัญชีแล้วยังคงให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการปลอมแปลงแต่เป็นญาติ ทั้งนี้ขอให้เป็นส่วนของกฎหมายดำเนินการใช้เวลาประมาณ 30 นาที คณะ นายบิณฑ์ ได้เดินทางด้วยรถยนต์ไปจุดอพยพบ้านปากกุดหวาย อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อแจกเงินบริจาคให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่อำเภอวารินชำราบ จำนวน 1,000 ครอบครัว