สอบเข้าโรงเรียนดัง 100%ยังไม่สรุป

สอบเข้าโรงเรียนดัง 100%ยังไม่สรุป

สพฐ.ยันปรับแก้เกณฑ์รับนักเรียนปี 63 ประกาศทันคลอด เดือนธ.ค.นี้พร้อมย้ำ รมว.ศึกษาธิการ เห็นชอบกระจายอำนาจสู่เขตพื้นที่ ส่วนการสอบเข้าโรงเรียนดัง 100% นั้น ขอให้เขตพื้นที่การศึกษาไปหารือก่อนนำเสนอรมว.ศึกษาพิจารณาอีกครั้ง

            นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงกรณีที่นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ขอให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)กลับไปปรับหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติการรับนักเรียนของสพฐ. ปีการศึกษา 2563 ว่า รมว.ศึกษาธิการได้ให้ความสำคัญและมุ่งมั่นในการจัดการศึกษาการรับนักเรียนให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพ ซึ่งหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติการรับนักเรียน ที่สพฐ.ได้รายงานไปนั้น เห็นด้วย 85% แต่อีก 15 % ได้มอบหมายให้ สพฐ.มาปรับปรุงแก้ไข เช่น เรื่องการประกาศ คำสั่งต่างๆ ต้องกำหนดว่าใครเป็นผู้ประกาศ และต้องเป็นผู้บริหารระดับไหน จะดำเนินการอย่างไรให้ชัดเจน  เป็นต้น ส่วนเรื่องการกระจายอำนาจนั้น รมว.ศึกษาธิการ เห็นชอบที่จะให้มีการกระจายอำนาจการบริหารงานไปสู่เขตพื้นที่การศึกษาแต่ละแห่ง ให้มีบทบาทในการทำงาน และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ดังนั้น ขณะนี้คณะทำงานเดิม ได้มีการปรับแก้ไข ซึ่งเป็นเพียงการแก้ไขเล็กน้อยเท่านั้น

            “สำหรับการให้โรงเรียนดังสอบเข้าเรียน 100% นั้น ถือเป็นเรื่องของเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งรมว.ศึกษาธิการ มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน และขอให้แต่ละเขตพื้นที่ไปหารือต่อคณะทำงานจัดทำร่างหลักเกณฑ์และแนวปฎิบัติการรับนักเรียนของสพฐ. อีกครั้ง ก่อนจะนำเสนอรมว.ศึกษาธิการอีกครั้ง และหากรมว.ศึกษาธิการ ไม่มีข้อท้วงติงอะไร ก็จะนำเสนอเข้าคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ประกาศหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติการรับนักเรียนของสพฐ. ปีการศึกษา 2563 ต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม การประเมินหลักเกณฑ์และแนวทางครั้งนี้ทันตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดภายในเดือนธ.ค.อย่างแน่นอน” นายสุเทพ กล่าว

 

          ทั้งนี้ สำหรับหลักเกณฑ์และแนวปฎิบัติการรับนักเรียนปี 2562 นั้น คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) มีมติให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปรับนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2562 ให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี

          ดังนั้น สพฐ. จึงยกเลิกนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2562 ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 และให้ใช้ประกาศนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2562 ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 แทน โดยมีประเด็นสำคัญ อาทิ 1. กรณีการรับนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษ 7 ข้อ ได้มีการพิจารณายกเลิกหลักเกณฑ์ 3 ข้อ ให้คงเหลือไว้ 4 ข้อ สำหรับเงื่อนไขพิเศษที่คงเหลือไว้ 4 ข้อ คือ นักเรียนที่อยู่ในอุปการะของผู้บริจาคที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อจัดตั้งโรงเรียน ซึ่งมีเงื่อนไขและข้อตกลงร่วมกันมาก่อนมติคณะรัฐมนตรี ณ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 นักเรียนที่เป็นผู้ยากไร้และด้อยโอกาส นักเรียนที่เป็นบุตรผู้เสียสละเพื่อชาติหรือผู้ประสบภัยพิบัติที่ต้องได้รับการสงเคราะห์ดูแลเป็นพิเศษ  และนักเรียนที่เป็นบุตรข้าราชการครูและบุคลากรของโรงเรีย

         2.การรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีการแข่งขันสูง ให้รับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการร้อยละ 60 และรับนักเรียนทั่วไปด้วยวิธีการสอบคัดเลือกร้อยละ 40 และต้องมีการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการรับนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษ รวมกับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษของแผนการรับนักเรียน โดยประกาศหลักเกณฑ์ก่อนการพิจารณาและประกาศรายชื่อนักเรียนที่ได้รับการพิจารณาตามเงื่อนไขพิเศษให้สาธารณชนทราบ

         3.การกำหนดนิยาม คุณสมบัติ และหลักเกณฑ์การเป็นนักเรียนในเขตพื้นที่บริการของโรงเรียนให้ มีความชัดเจนและเข้มงวดขึ้น โดยนักเรียนในเขตพื้นที่บริการ หมายถึง นักเรียนที่มีชื่อในทะเบียนบ้านที่อยู่ใน เขตพื้นที่บริการของโรงเรียน อย่างน้อย 2 ปี นับถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2562 และต้องอาศัยอยู่จริงกับบิดา มารดา หรือผู้ปกครองตามพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545 ที่เป็นเจ้าบ้านหรือเจ้าของบ้าน โดยให้เจ้าบ้านหรือเจ้าของบ้านรับรองการอาศัยอยู่จริง เพื่อให้ได้นักเรียนที่เป็นผู้มีภูมิลำเนาและอาศัยอยู่ในพื้นที่จริง มิใช่เพียงแต่ชื่อปรากฏในทะเบียนบ้าน แต่มิได้อาศัยอยู่ในทะเบียนบ้านดังกล่าวจริง

         4.ให้ทุกสถานศึกษาประกาศผลการสอบโดยเรียงตามลำดับคะแนนสอบของผู้เข้าสอบแข่งขันได้ทุกคนโดยเปิดเผยอย่างชัดเจนต่อสาธารณะ ทั้งนี้ ในกรณีที่สถานศึกษามีการรับนักเรียนเพิ่มเติมไม่ว่าในกรณีใดให้ดำเนินการเรียกรับนักเรียนตามประกาศผลการสอบที่ได้เรียงรายชื่อตามลำดับคะแนนที่สอบแข่งขันได้

         5. ให้โรงเรียนแจ้งค่าใช้จ่ายและรายละเอียดการเก็บเงินบำรุงการศึกษาไว้ในประกาศการรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อของแต่ละโรงเรียน เพื่อให้ผู้ปกครองได้รับทราบไว้โดยชัดเจน

         6.ห้ามมิให้โรงเรียนดำเนินการเอื้อประโยชน์โดยให้สิทธิพิเศษหรือโควตาแก่สมาคมผู้ปกครองและครู สมาคมศิษย์เก่า หรือสมาคมที่เกี่ยวเนื่องกับด้านการศึกษาของแต่ละโรงเรียน ในลักษณะที่มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ในการฝากเด็กเข้าเรียนหรือในลักษณะการมีผลประโยชน์ต่างตอบแทน