วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (17 ก.ย.62)

+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าร้อยละ 14 เนื่องจากความกังวลต่ออุปทานน้ำมันดิบที่อาจปรับลด หลังเกิดเหตุโจมตีโรงงานน้ำมันในเมือง Abqaiq และ Khurais ของซาอุดิอาระเบียเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ซาอุดิอาระเบียประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบกว่า 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือร้อยละ 5 ของอุปทานน้ำมันดิบโลก  โดยยังไม่มีกำหนดการณ์ในการกลับมาดำเนินการผลิตได้ในระดับปกติ

- ประเทศที่นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่จากซาอุดิอาระเบีย เช่น จีนและเกาหลีใต้ มีมาตรการรองรับต่อผลกระทบจากการปรับลดกำลังการผลิตของซาอุดิอาระเบีย โดยจีนมีปริมาณน้ำมันสำรองฉุกเฉินราว 325 ล้านบาร์เรล เพียงพอต่อการใช้ราว 33 วัน ขณะที่เกาหลีใต้คาดว่าไม่มีผลกระทบในระยะสั้น แต่มีการพิจารณาใช้น้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ที่มีอยู่ 96 ล้านบาร์เรล เทียบเท่ากับการใช้น้ำมัน 90 วัน หากเกิดปัญหาในการจัดหาน้ำมันดิบของประเทศ

- ตลาดคาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น เพื่อแทนที่อุปทานที่ปรับลดจากซาอุดิอาระเบีย  ซึ่งการส่งออกน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ แตะระดับสูงกว่า 3 ล้านบาร์เรลต่อวันแล้วในสัปดาห์ก่อนหน้า

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความกังวลต่ออุปทานที่ปรับลดจากเหตุโดรนโจมตีโรงงานน้ำมันในซาอุดิอาระเบีย

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังการส่งออกจากสิงค์โปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดีเซลยังมีแรงหนุนจากเหตุโดรนโจมตีโรงงานน้ำมันในซาอุดิอาระเบีย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (16 ก.ย.62)
-ไทยออยล์คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมัน 16 - 20 ก.ย. 62 และสรุปสถานการณ์ฯ 9 - 13 ก.ย. 62
-SRICHA คว้าไทยออยล์ งานโครงสร้างโรงกลั่นใหม่
-ไทยออยล์ได้รับการรับรองให้เป็นสมาชิก DJSI 2562 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7