แกว่งตัวรอผล FED

แกว่งตัวรอผล FED

ตลาดจะยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นจากเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งของซาอุฯซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน

ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index ปิดบวกเล็กน้อย +0.97 จุด (+0.06%) ปิดที่ระดับ 1,662 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.1 หมื่นล้านบาท โดยภาวะตลาดได้แรงหนุนจากลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นแรงหลังโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งของซาอุฯถูกโจมตี อย่างไรก็ตามมีแรงขายลดความเสี่ยงก่อนการประชุม FED โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารที่ถูกกดดันจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลงส่งผลให้ดัชนีปิดบวกเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติเป็นฝั่งซื้อสุทธิ 1,069 ล้านบาท และ Net Long TFEX จำนวน 6,955 สัญญา เป็นฝั่งขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,403 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้

เรามีมุมมองเป็นกลางคาด SET แกว่งตัว 1,660 - 1,670 จุด แม้ว่าภาวะตลาดจะยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นจากเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งของซาอุฯซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เกิดความกังวลว่าสถานการณ์ตะวันออกกลางอาจตึงเครียดขึ้น รวมถึงส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลก นอกจากนี้คาดว่านักลงทุนจะชะลอการซื้อขายเพื่อรอผลการประชุม Fed ในวันที่ 17 – 18 ก.ย.ที่คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เป็น 2% รวมถึงรอผลคำวินิจฉัยคุณสมบัตินายกฯของพลเอกฯประยุทธ์ของศาลรธน.ในวันที่ 18 ก.ย.นี้ ซึ่งจะกดดันให้ดัชนีมีความผันผวน

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่ม Global play (PTTEP, TOP ,IVL ,KCE ,HANA ) อานิสงส์สถานการณ์ Trade war ที่ผ่อนคลายลง
  • กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD, THANI) ได้ประโยชน์ต้นทุนลดลงจากทิศทางดอกเบี้ยขาลง
  • หุ้น Defensive stock AOT, INTUCH, ADVANC, BEM, BTS, BDMS, BCH, CHG, GPSC, BGRIM, TPCH, TTW, CPALL

หุ้นแนะนำวันนี้

  • PTTEP (ปิด 125 ซื้อ/เป้า 160 บาท) ได้ประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันดิบพุ่งแรงจากข่าวแหล่งผลิตน้ำมัน 2 แห่งของซาอุฯ ถูกโจมตีคาดกระทบการผลิตน้ำมันและก๊าซฯ 5.7 ล้านบาร์เรล/วัน หรือกว่า 50% ของการผลิตทั้งหมดของซาอุฯและ 5% ของอุปทานน้ำมันทั่วโลก ครึ่งปีหลังมีปัจจัยหนุนจากกำลังการผลิตและปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการ Murphy Oil ในมาเลเซียหนุนปริมาณขายเพิ่มขึ้น 5% ในปีนี้และ 14% ในปีหน้า
  • RJH (ปิด 26.50 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 32.2 บาท) เป็นโรงพยาบาลขนาดกลางถึงเล็กที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิเติบโตโดดเด่นที่สุดในปีนี้ โดยตลาดส่วนใหญ่คาดกำไรสุทธิปี 19 ประมาณ 350 -380 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 50-60%yoy ขณะที่ PE ซื้อขายเฉลี่ยที่ระดับ 20 เท่า ถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 25-30 เท่า

บทวิเคราะห์วันนี้

ICT sector (Top pick: ADVANC, INTUCH, DTAC), AOT (ปิด 73.5 ซื้อ/เป้า 87 บาท)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (-) ตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 142.70 จุด วิตกราคาน้ำมันพุ่งกระทบเศรษฐกิจ: ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,076.82 จุด ลดลง 142.70 จุด หรือ -0.52% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นจากเหตุการณ์โจมตีโรงงาน้ำมัน 2 แห่งในซาอุฯนั้นอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และนำไปสู่การตอบโต้กันในตะวันออกกลาง ทั้งนี้สหรัฐได้ออกมาเรียกร้องให้นานาชาติรวมตัวกันเพื่อตอบโตอิหร่านหลังผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าโดรนที่ใช้ในการโจมตีโรงงาน้ำมันเป็นของอิหร่าน และโดรนดังกล่าวไม่ได้ถูกปล่อยขึ้นจากทางเยเมน
  • (+/-) ภาวะตลาดน้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $8.05 หลังเหตุโจมตีโรงงานน้ำมันซาอุฯฉุดการผลิตลดลง: สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 8.05 ดอลลาร์ หรือ 14.7% ปิดที่ 62.90 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับขึ้นในวันเดียวที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2531 หลังจากโรงงานน้ำมันสองแห่งในเขตอับกาอิก (Abqaiq) และคูราอิส (Khurais) ของซาอุฯถูกโจมตีด้วยโดรนจนเป็นเหตุให้เกิดเพลิงลุกไหม้ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันและก๊าซในปริมาณ 5.7 ล้านบาร์เรล/วันหรือคิดเป็น 5% ของอุปทานน้ำมันทั่วโลก
  • (+) กสทช.จ่ายชดเชย MCOT 161 ลบ.หลังยุติออกอากาศช่อง 14 MCOT Family ส่วนกลุ่ม BEC รอคิว 30 ก.ย.: กสทช. จ่ายเงินชดเชยให้แก่ MCOT สุทธิจำนวน 161.03 ล้านบาท หลังจากที่อสมท ได้ยุติการออกอากาศโทรทัศน์ระบบดิจิทัล ช่อง 14 MCOT Family ตั้งแต่วานนี้ 16 ก.ย. โดยเป็นการจ่ายเงินค่าชดเชยให้กับอสมท จำนวน 226.43 ล้านบาท หักภาษี ณ ที่จ่าย จำนวน 2.26 ล้านบาท หักค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ งวดที่ 4 จำนวน 63.13 ล้านบาท ทำให้คงเหลือเงินชดเชยสุทธิจำนวนดังกล่าว สำหรับช่องทีวีดิจิทัลที่จะคืนใบอนุญาตอีก 2 ช่องที่เหลือ ได้แก่ ช่อง 3SD หมายเลขช่อง 28 และ ช่อง 3 Family หมายเลขช่อง 13 ของ บริษัท บีอีซี มัลติมีเดีย จำกัด ในกลุ่มบมจ.บีอีซี เวิลด์ (BEC) จะยุติการออกอากาศวันที่ 30 กันยายน 2562 ก็จะมีการจ่ายเงินชดเชยให้ต่อไป ซึ่งเรามองเป็นปัจจัยบวกโดยตรงต่อ MCOT และ BEC เนื่องจากได้รับเงินชดเชยจากกสทช.อีกทั้งค่าใช้จ่ายที่ลดลงจากการลดจำนวนช่องในการออกอากาศ