ทีโอทีเท 400 ล้าน ปรับกลยุทธ์องค์กร

ทีโอทีเท 400 ล้าน ปรับกลยุทธ์องค์กร

รอชงบอร์ดอนุมัติ 24 ก.ย.นี้ส่งแผนดิจิทัลเข้า คนร.

“มนต์ชัย”ยิ้มรับบอร์ดยุทธศาสตร์ไฟเขียวแผนวิสาหกิจปี2563-2567เตรียมปรับองค์กรสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ พร้อมรีสกิล-อัพสกิลพนักงานทั่วประเทศ คาดต้องใช้เงินเบื้องต้นราว 400 ล้านบาท เพื่อขยับฐานรายได้จากธุรกิจใหม่ ส่วนปีนี้คาดผลประกอบการจบที่ 52,000 ล้านบาท กำไร 2,500 ล้านบาท แต่อาจขาดทุนทางบัญชีเพราะจ่ายชดเชยพนักงานเกษียณเพิ่มเป็น 400 วัน

นายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที กล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ (บอร์ด) บริหารและบอร์ดยุทธศาสตร์ได้มีการประชุมแผนวิสาหกิจปี2563-2567แล้วตามที่ตนเสนอไปแล้ว โดยขั้นตอนต่อจากนี้จะเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ดใหญ่ทีโอทีอีกครั้งในวันที่ 24 ก.ย.นี้ จากนั้นจะเสนอต่อกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ซึ่งหากได้รับความเห็นชอบก็จะเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ต่อไป

สำหรับแผนธุรกิจที่ผ่านบอร์ดบริหารและบอร์ดยุทธศาสตร์ในเบื้องต้นนั้น ก็ยังเป็นตามแผนเดิมที่เคยดำเนินการไปบ้างแล้ว แต่ก็จะมีการปรับในเรื่องการมีแผนยุทธศาสตร์เรื่องดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น โดยจะมี 3 แกนสำคัญคือ 1.คลาวด์ 2.ความปลอดภัยข้อมูล (ไซเบอร์ซิเคียวริตี้) 3.แพลตฟอร์ม และโซลูชั่น โดยทิศทางการดำเนินงาน คือ เอาเรื่องธุรกิจดิจิทัลมาเสริม ซึ่งในระยะยาวจะทำปรับรายได้จากดิจิทัลให้สูงขึ้น เป็น 30% ใน ปี2565-2566ของรายได้รวม ปีนี้รายได้รวม ดิจิทัลไม่ถึง 5-6% น่าจะผลักดันให้ได้ และในอนาคตจะมีการตั้งสำนักปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ดิจิทัลด้วย

นอกจากนี้ ตนยังได้เสนอของบประมาณสำหรับลงทุนในปี 2563 ไปแล้ว 5,000 ล้านบาท และหากแผนวิสาหกิจดังกล่าวได้รับอนุมัติเรียบร้อยภายในสิ้นปีนี้ ก็จะรีวิวงบเพิ่มเติมเพื่อใส่แผนธุรกิจดิจิทัลเข้าไปเพื่อให้พัฒนาธุรกิจในด้านนี้อีก 300-400 ล้านบาท และในปี 2564 จะเพิ่มงบในส่วนดิจิทัลเป็น 1,000 ล้านบาท โดยจะเป็นการหาพาร์ทเนอร์เอกชนซึ่งหากจะผลักดันให้รายได้ด้านดิจิทัลให้ได้ 30% ต้องเป็น 10,000 ล้านบาท

“เราพยายามจะเป็นอินฟราสตรัคเจอร์ให้สอดรับกับดีอี และกระทรวงการคลัง ซึ่งเราจะทำธุรกิจดิจิทัลให้เป็นถนนกลางแล้วหาลูกค้าที่เป็นหน่วยงานภาครัฐมาใช้สินค้าของเรา เอาบริการดิจิทัลไปออน ท๊อปตรงนั้นให้ได้”

เขา กล่าวว่า นอกจากนั้นยังต้องมีการปรับทักษะการทำงานของพนักงานทั้งปรับทักษะใหม่ (รี-สกิล) และเพิ่มทักษะการทำงาน (อัพ-สกิล) โดยกลุ่มธุรกิจก็คือไอทีเก่าที่ต้องรี-สกิล กับอีกกลุ่มดิจิทัล เซอร์วิส ต้องอัพ-สกิล สำหรับเป้ารายได้ปีนี้น่าจะอยู่ที่ 52,000 ล้านบาท คาดการณ์กำไรที่ 2,500 ล้านบาท โดยรายได้ดังกล่าวนี้มาจากการพันธมิตรกับเอกชนทั้งบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) และบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) จำนวน 50% ส่วนที่เหลือเป็นรายได้ที่ทีโอทีดำเนินการเอง โดยธุรกิจที่ทำเองมาจากรายได้ 40% มาจากบรอดแบนด์รายได้ 25% ฟิกซ์ไลน์รายได้ 30-35% และดาต้าบริการดิจิทัล

อย่างไรก็ดี ตนมีความกังวลว่าผลการดำเนินงานปีนี้ในท้ายที่สุดอาจจะขาดทุนสุทธิ ตามที่ครม.เห็นชอบในหลักการร่างประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง มาตรฐานขั้นต่ำของสภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่...) โดยสาระสำคัญของร่างประกาศกำหนดให้กำหนดให้ขยายสิทธิ์ค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบ 10 ปี แต่ไม่ครบ 20 ปี ได้รับสิทธิค่าชดเชย 300 วัน และกำหนดให้ขยายสิทธิได้รับค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบ 20 ปีขึ้นไป ให้จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย 400 วัน ซึ่งก็จะมีการบันทึกการรับรู้ของพนักงาน 13,000 คนในปีนี้ น่าจะใช้เงินไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท