'ซีพี' พร้อมเซ็นไฮสปีด จ่อยื่นอุทธรณ์คดีอู่ตะเภา

'ซีพี' พร้อมเซ็นไฮสปีด จ่อยื่นอุทธรณ์คดีอู่ตะเภา

"ศุภชัย" ยืนยัน "ซีพี" พร้อมเซ็นไฮสปีด ชี้งบลงทุนสูงขอเวลาหารือพันธิมตรเคาะวันลงนาม จ่อยื่นอุทธรณ์คดีอู่ตะเภา ชี้ไม่ชนะไม่เป็นไร ขอเปิดกว้างการแข่งขัน ยืนยันไม่เจรจากับผู้ชนะอู่ตะเภา กองทัพเรือจ่อแจ้งผลซอง 2 ใน ก.ย.นี้

คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) กำหนดให้กิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (กลุ่มซีพี) ยื่นข้อเสนอวันที่พร้อมลงนามสัญญาร่วมลงทุนภายใน 7 วัน

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เปิดเผยว่า เครือซีพีจะหารือกับพันธมิตรเกี่ยวกับลงนามสัญญาร่วมลงทุน โดยยืนยันว่าจะลงนามเพื่อดำเนินโครงการนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากทางเครือซีพีมีความตั้งใจที่จะเข้ามาลงทุนทางด้านนี้และศึกษามานานหลายปี ทำให้มีความพร้อมที่จะทำได้ คิดว่าการลงนามจะทันตามระยะเวลาที่ภาครัฐกำหนดไว้อย่างแน่นอน

สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เป็นโครงการที่ใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการตัดสินใจจากทุกฝ่าย แต่เมื่อทุกฝ่ายมีความตั้งใจตรงกันแล้วคาดว่าการลงนามจะไม่มีปัญหา

“เรื่องรถไฟความเร็วสูงนั้นมีคณะทำงานของเราดูแลอยู่ ซึ่งขณะนี้ผมยังไม่ทราบรายละเอียดจากคณะทำงานจึงต้องขอพิจารณารายละเอียดก่อน ยังไม่สามารถตอบอะไรได้มากนัก แต่เรื่องนี้เรามีความตั้งใจอย่างเต็มที่และเตรียมมาหลายปี”

ทั้งนี้ เครือซีพีเข้าร่วมการประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ในนามกลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร โดยชนะการประมูลด้วยข้อเสนอขอรับเงินอุดหนุนจากรัฐต่ำที่สุดในวงเงิน 117,227 ล้านบาท ในขณะที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนดวงเงินร่วมลงทุนไว้ไม่เกิน 119,425 ล้านบาท และ ครม.เห็นชอบให้กิจการร่วมค้าดังกล่าวเป็นผู้ชนะการประมูลเมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา

จ่อยื่นอุทธรณ์คดีอู่ตะเภา

สำหรับโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก เครือซีพีเป็น 1 ใน 3 ของผู้ยื่นซอง โดยยื่นในนามบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร ซึ่งเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องของกลุ่มซีพีที่ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก กรณีไม่รับเอกสารข้อเสนอบางส่วนที่ยื่นเกินระยะเวลาที่กำหนด และกลุ่มซีพีสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน หรือ ภายในวันที่ 20 ก.ย.นี้

นายศุภชัย กล่าวว่า ซีพีคงต้องยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางเช่นกัน และหวังว่าจะได้รับความเมตตาจากภาครัฐ เพราะเรื่องนี้น่าจะได้ไปถึงขั้นตอนการเปิดซองประมูลก่อน ซึ่งไม่ว่าจะแพ้หรือชนะไม่เป็นไร แต่ต้องการให้เกิดการแข่งขันการประมูลอย่างสมบูรณ์ โดยคาดหวังว่าการอุทธรณ์น่าจะเป็นผลที่ดีเพราะเป็นโครงการที่เครือซีพีตั้งใจที่เข้าไปร่วมดำเนินการ

“หากเครือซีพีไม่ได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าวก็ไม่เป็นไรก็ไม่ต้องทำ และคงไม่เจรจาเพื่อร่วมธุรกิจกับผู้ชนะการประมูล” นายศุภชัย กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ร่วมยื่นซองประมูลโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกอีก 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มกิจการร่วมค้า BBS ประกอบด้วย บริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ,บริษัทการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)

2.กลุ่มแกรนด์คอร์โซเตียม ประกอบด้วย บริษัทแกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ,บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น จำกัด (มหาชน) และบริษัทเอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน)

“ซีพี”ถกพันธมิตรเคาะไฮสปีด

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า การลงทุนโครงการนี้ใช้เงินลงทุนสูง ซึ่งกลุ่มซีพีคาดว่าจะใช้เวลาในการหารือพันธมิตรเพื่อสรุปวันลงนาม 1 สัปดาห์ เนื่องจากพันธมิตรของกลุ่มซีพีจะต้องนำเรื่องการกำหนดวันลงนามเสนอให้คณะกรรมการบริษัทอนุมัติก่อนจึงจะสรุปวันลงนามมายื่นให้ภาครัฐ

ทั้งนี้ กลุ่มซีพีเห็นด้วยกับแนวทางการดำเนินการหลังลงนามสัญญาร่วมลงทุน ซึ่งเมื่อลงนามแล้วทั้ง 2 ฝ่าย จะมีคณะทำงานเพื่อลงพื้นที่เคลียร์พื้นที่ก่อสร้าง โดยระหว่างนั้นกลุ่มซีพีสามารถเข้าไปปรับพื้นที่เพื่อเตรียมก่อสร้างได้ และเมื่อทั้ง 2ฝ่ายเห็นพร้อมกันว่าพื้นที่ก่อสร้างทั้งหมดมีความพร้อมแล้ว ร.ฟ.ท.จะออกหนังสือเริ่มงานก่อสร้าง หรือ Notice to Proceed (NTP) โดยแนวทางนี้จะลดปัญหาข้อพิพาทของคู่สัญญา ซึ่งต่างจากโครงการอื่นที่ได้รับอนุมัติและลงนามสัญญาเลย และเมื่อส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างไม่ทันจะมีการฟ้องร้อง

ส่วนการนับระยะเวลาก่อสร้างตามสัญญาที่กำหนดไว้ 5 ปี จะเริ่มนับหลังจากมีการออกหนังสือ NTP และความพร้อมที่เตรียมก่อนให้เริ่มก่อสร้างจะทำให้เอกชนก่อสร้างเสร็จตามที่สัญญากำหนดภายใน 5 ปี

รู้ผลซอง2อู่ตะเภา ก.ย.นี้

พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกฯ วันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา รับทราบความคืบหน้าการประเมินเอกสารข้อเสนอซองที่ 2 (ข้อเสนอด้านเทคนิค) ซึ่งให้ความสำคัญในการพิจารณาเอกสารอย่างรอบคอบ เพราะเป็นโครงการที่มูลค่าการลงทุนสูงและซับซ้อน รวมทั้งมีงานเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกับกิจกรรมอื่น

อีกทั้งต้องใช้เวลาในการพิจารณาศักยภาพและความพร้อมในด้านการเงินและการลงทุนของกลุ่มผู้ยื่นข้อเสนอ ดังนั้น จึงเน้นย้ำให้คณะทำงานประเมินข้อเสนอของเอกชนผู้ยื่นข้อเสนอเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ดำเนินการอย่างรัดกุมในการพิจารณาตรวจเอกสาร รวมทั้งคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้เชิญผู้ยื่นข้อเสนอทั้ง 3 ราย มาบรรยายสรุปข้อเสนอเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าผลการประเมินเอกสารข้อเสนอด้านเทคนิคจะเสร็จในเดือน ก.ย.นี้

แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวว่า กลุ่มซีพียังไม่ยื่นอุทธรณ์จึงยังไม่ทราบว่าใช้ประเด็นใดอุทธณ์ แต่คณะกรรมการคัดเลือกฯ ก็ทำงานต่อเนื่องเพื่อสรุปคะแนนซอง 2 เมื่อได้ผลแล้วจะแจ้งคะแนนให้ผู้ยื่นซองแต่ละรายรับทราบว่าผ่านหรือไม่ผ่าน แต่จะไม่แจ้งต่อสาธารณะ

ทั้งนี้ กรณีคณะกรรมการคัดเลือกฯ ไม่รับเอกสารข้อเสนอซองที่ 2 ข้อเสนอเทคนิคและแผนธุรกิจ (กล่องที่ 6) และซองที่ 3 ข้อเสนอด้านราคา (กล่องที่ 9) เพราะยื่นหลังกำหนดเวลา 15.00 น. ซึ่งทำให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ พิจารณาเฉพาะเอกสารของกลุ่มซีพีที่ยื่นภายในกำหนดเวลา จึงทำให้คะแนนรวมของกลุ่มซีพีในซอง 2 อาจจะไม่ผ่านเกณฑ์

'ซีพี' พร้อมเซ็นไฮสปีด จ่อยื่นอุทธรณ์คดีอู่ตะเภา