หุ้นวอลล์สตรีทปิดไร้ทิศทาง

หุ้นวอลล์สตรีทปิดไร้ทิศทาง

หุ้นแอ๊ปเปิ้ลดิ่งลง 1.7% หลังจากที่โกลด์แมน แซคส์ ประกาศปรับลดเป้าหมายราคาสู่ระดับ 165 ดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 187 ดอลลาร์

หุ้นวอลล์สตรีท ปิดตลาดวันศุกร์ (13ก.ย.)ปรับตัวไร้ทิศทาง มีทั้งร่วงลงและปรับตัวขึ้น โดยดัชนีดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 8 ทำสถิติช่วงขาขึ้นยาวนานที่สุดในรอบกว่า 1 ปี ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 และดัชนีแนสแด็กปรับตัวลง แม้ว่านักลงทุนจะคลายความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 37.07 จุดหรือ 0.14% ปิดที่ 27,219.52 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 2.18 จุดหรือ 0.07% ปิดที่ 3,007.39 และดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวลง 17.75 จุดหรือ 0.22% ปิดที่ 8,176.71 จุด

ขณะนี้ ดัชนีดาวโจนส์ใกล้แตะระดับ 27,398.68 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้ก่อนหน้านี้

หุ้นโบอิ้งและแคทเธอร์ พิลลาร์ดีดตัวขึ้น 0.4% และ 0.8% ตามลำดับ โดยหุ้นของบริษัททั้งสองถือเป็นตัวชี้วัดสภาวะการค้าของสหรัฐ เนื่องจากมีการลงทุนจำนวนมากในต่างประเทศแต่หุ้นแอ๊ปเปิ้ลดิ่งลง 1.7% หลังจากที่โกลด์แมน แซคส์ ประกาศปรับลดเป้าหมายราคาสู่ระดับ 165 ดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 187 ดอลลาร์

ทั้งนี้ นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนจะพบปะกันในสัปดาห์หน้าเพื่อเจรจาการค้าโดยประเด็นต่างๆที่จะมีการหารือกัน รวมถึง ดุลการค้า การเข้าถึงตลาด และการคุ้มครองนักลงทุน

ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ กล่าวว่า เขากำลังพิจารณาทำข้อตกลงการค้าฉบับชั่วคราวกับจีน ทั้งยังบอกว่า จีนจะเริ่มซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐในปริมาณมาก

ทั้งนี้ ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้คลี่คลายลง หลังจากที่ปธน.ทรัมป์ ประกาศเลื่อนการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2.50 แสนล้านดอลลาร์ จากวันที่ 1 ต.ค. ไปเป็นวันที่ 15 ต.ค. ส่วนรัฐบาลจีน ประกาศรายชื่อสินค้าจำนวน 16 รายการของสหรัฐที่จะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 17 ก.ย. เป็นเวลา 1 ปีจนถึงวันที่ 16 ก.ย.2563